5 มกราคม 2560

[SEVENTEEN] [OS] เล่นน้ำฝน (MEANIE/MINWON)

Title : เล่นน้ำฝน [Series : มินวอนขี้เล่น]

Pairing : Mingyu x Wonwoo

Rate : NC

Words : ~3200

By : AKEmi

Note : แรงบันดาลใจจากการ์ดมินกยูของน้ำหอมคลีนค่ะ ถ้าเข้าแท็กฟิคไปจะเห็นเราทวิตอยู่ 555555 เรื่องนี้ค่อนข้างยากเพราะฟีลลิ่งค่ะ โดนพังฟีลพังเรือบ่อยมาก ตรงกับคัมแบคบูมบูมที่ฟีลค่อนข้างจะคนละทางกับเรื่องด้วยเลยยากทวีคูณ //หน้ามืด ส่วนตัวชอบฟีลเรื่องมากเพราะชอบฝนแต่มันช่างยากเย็น เพราะงั้นพอแต่งจบแล้วเหมือนปลดล็อกตัวเองเลยค่ะ ฝากเรื่องนี้ด้วยนะคะ (_ _)

Tag : #มินวอนขี้เล่น, #มินวอนเล่นน้ำฝน






















            เขาอยู่ที่นี่มาสองเดือนแล้ว...



            ในฐานะ... อืม... ของเล่นล่ะมั้ง หรือเรียกว่าตุ๊กตาดี ดูเจ้าของของเขาจะสนุกกับการลากเขาไปมาที่นั่นที่นี่ บอกว่าเปลี่ยนบรรยากาศ อ่า... ในการมีเซ็กซ์น่ะ



            ก็รู้ล่ะนะว่านี่มันปีอะไรยุคไหนแล้ว แต่ไอ้การขายตัวเองใช้หนี้มันก็ยังมีอยู่จริง ๆ ไม่คิดเหมือนกันว่าตัวเองจะต้องมาตกอยู่สถานการณ์แบบนี้



            คิมมินกยูไม่คิดว่าตนเองจะมีค่าถึงร้อยสองล้านวอน อันที่จริง ถ้ารวมกับค่าอาหาร เสื้อผ้า และสิ่งอำนวยความสะดวกที่จอนวอนอูสรรหามาให้เขาอยู่อย่างสบาย มันน่าจะแตะร้อยห้าล้านวอนด้วยซ้ำ...



          จอนวอนอูคิดอะไรอยู่นะ...
          คิมมินกยูไม่เข้าใจจริง ๆ ...



            "ฝนตก" เสียงพึมพำข้างหูทำให้มินกยูหันไปมองเจ้าของเสียงที่กำลังเดินลงบันไดมา



            "ครับ ท่าทางจะหนัก วันนี้วอนอูไปไหนรึเปล่าครับ" ใบหน้าคมเงยมองเจ้าของบ้านที่หยุดยืนอยู่บนขั้นบันไดสุดท้าย เขาเรียกชื่อของวอนอูจนชินปากแล้วแต่คำสุภาพนั้นก็ติดปากเขาจนเป็นปกติเช่นกัน การศึกษาที่ดีก็ไม่ช่วยเขามากนักถ้าครอบครัวของเขาไม่ได้ดีตาม...



            "อยากเล่นน้ำฝน" มือเรียวแตะไล่จากไหล่กว้างไปจนโอบรอบคอ มินกยูมองสบตาเรียวคมนั้นอย่างนึกสงสัย เขาไม่เคยเข้าใจคนคนนี้สักครั้งจริง ๆ



            "วอนอูจะไม่สบายนะครับ" มือหนาแตะเอวบางเบา ๆ ร่างกายบอบบางนี้ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่มินกยูสงสัย



            ทำไมเขาไม่เคยนึกรังเกียจมันเลยสักครั้ง...



            แค่ให้ใช้ตัวเองแทนหนี้ทั้งหมดมันก็น่าประหลาดใจอยู่แล้ว แถมคนที่ตัวเองต้องมาใช้หนี้ก็เป็นผู้ชายด้วยกัน ถึงรู้ว่าเดี๋ยวนี้รสนิยมทางเพศไม่ได้มีแค่ชายคู่กับหญิงแต่ก็อดแปลกใจและรู้สึกไม่ดีไม่ได้ เขาไม่เคยคิดกับผู้ชายในทางนั้นเลยนี่นา



            แต่จอนวอนอูกลับมีแรงดึงดูดบางอย่าง รูปร่างผอมบางนั้นทำให้ดูน่าปกป้อง ทั้งแขนขา ทั้งนิ้วเรียว ทุกอย่างเล็กไปหมดสำหรับคนที่มีกล้ามเนื้อแน่นแบบมินกยู ถึงจะสูงไม่ต่างกันมากแต่วอนอูกลับดูตัวเล็กเหลือเกิน



            ที่สำคัญคือสายตา... สายตาที่มินกยูไม่เคยอ่านมันออก มันทำให้เขาอยากจดจ้อง สีน้ำตาลเข้มที่เป็นประกายเล็กน้อยนั้นมีแรงดึงดูดมากมายมหาศาล



            ถึงอย่างนั้น เวลามีเซ็กซ์กัน วอนอูกลับหลับตาเสมอ...



            "อยากเล่นน้ำฝน" วอนอูเอ่ยย้ำอีกครั้ง มินกยูถอนหายใจเบา ๆ พยักหน้าแล้วจึงโอบเอวบางให้เดินไปทางประตูที่เชื่อมกับสวนด้านหลัง



            ถึงจะยังไม่เข้าใจอะไรจนกระจ่างแต่มินกยูก็รู้ว่า ตัวเองอยากปกป้องดูแลวอนอูให้ดี



            ทั้งสองก้าวออกไปหาสายฝนพรำ มินกยูมองดูวอนอูไม่วางตา รอยยิ้มราวกับเด็กน้อยทำให้เขายิ้มออกมาด้วย



          คิดถึงน้ำฝนเหมือนกันแฮะ...
          แต่...มันจะตกหนักเกินไปมั้ยนะ...



            น้ำฝนเม็ดใหญ่ตกลงมาเพียงไม่กี่เม็ดก็ทำให้ไหล่บางเปียกชุ่ม ผิวเนื้อถูกเผยให้เห็นเกือบจะชัดเจนใต้เนื้อผ้าที่ชุ่มฝนนั้น สีขาวของเสื้อเชิ้ตจางลงและถูกแทนที่ด้วยสีผิวที่ซีดขาว วอนอูเริ่มเปียกไปทั้งตัว ผมสีดำสนิทที่มักจะเซ็ทเก็บเรียบร้อยอย่างดีเปียกลู่ลงปรกหน้าผาก



            มินกยูมองคนตรงหน้าไม่วางตา เพราะวอนอูมักจะเซ็ทผมขึ้นเสมอ และมักจะชอบเข้าหาเขาด้วยลุคแบบนั้นแม้แต่ตอนนอนด้วยกัน มีเพียงปอยผมไม่กี่ปอยเท่านั้นที่หลุดลุ่ยลงมาเพราะหยาดเหงื่อที่ละลายสเปรย์หรือแว๊กแต่งผม แต่วันนี้ ตอนนี้ ผมสีดำนั้นปรกไปจนเกือบถึงดวงตา ใบหน้านั้นดูอ่อนหวานขึ้นมากจนมินกยูแปลกใจ



            คนคนนี้...สวยได้ขนาดนี้เลยหรอ...



            อาจจะด้วยความลืมตัว แต่มือของมินกยูก็แตะเข้าที่แก้มขาวเสียแล้ว ดวงตาสีน้ำตาลจ้องมองมาที่เขาอย่างแปลกใจ มินกยูไม่เคยจะเข้าหาวอนอูก่อนแบบนี้เลย นิ้วยาวนั้นไล้ไปตามกรอบหน้าแผ่วเบา



            "ฉันดูอ่อนแอมากมั้ย?" เสียงแผ่วเบาดังลอดริมฝีปากอิ่ม แม้เสียงฝนจะดังขนาดไหนแต่มินกยูก็ได้ยินมันชัดเจน ปลายนิ้วเกลี่ยแก้มขาวราวกับจะปลอบโยน



            "คุณสวย..." ใบหน้าคมก้มลงจุมพิตข้างแก้ม ไล้ปลายจมูกคลอเคลียกับใบหน้าชุ่มฉ่ำ



            "นายตอบไม่ตรง---" ริมฝีปากที่บดเบียดลงมาดูดกลืนเสียงทั้งหมดเข้าไป ความนิ่งงันครอบคลุมตัวเขาทั้งสองช้า ๆ ความเย็นเยียบถูกแทนที่ด้วยความร้อน ทั้งริมฝีปาก ทั้งมือหนา



            มินกยูผละออกมามอง ดวงตาสีน้ำตาลของวอนอูฉ่ำน้ำช่วยขับให้ใบหน้าดูหวานจนงดงาม ริมฝีปากที่แดงขึ้นจนกลายเป็นสีเชอร์รี่น่าดึงดูด เขากดริมฝีปากของตนลงบนนั้นอีกครั้ง บดเบียดขบเม้มอย่างกระหายจนอีกคนตามไม่ทัน เมื่อปากอิ่มเผลอเผยอออก ลิ้นร้อนก็สอดแทรกเข้าทันที เกี่ยวกระหวัดจนเกิดเสียงครางแผ่วในลำคอ ร่างสูงอยากจะจูบไปอีกนานแสนนานหากไม่โดนมือเรียวทุบเข้าที่ไหล่เสียก่อน



            "วอนอูแค่บอบบาง..." มือหนายกมือเรียวขึ้นมาจุมพิตแผ่วเบา ริมฝีปากอุ่นไล้ไปตามนิ้วเย็น บรรจงจรดจุมพิตลงบนปลายนิ้วซ้ำ ๆ



            "ผมรู้ว่าวอนอูแข็งแกร่งแค่ไหน การร้องไห้ไม่ใช่ความอ่อนแอ แต่มันคือความเข้มแข็งที่เอ่อล้นออกมา" ใบหน้าหล่อผละจากมือเรียว คลอเคลียจุมพิตที่ใบหน้าหวาน ริมฝีปากอุ่นจูบซับน้ำตาที่ไหลลงมาแผ่วเบา



            "แต่ฉันไม่ชอบ... อือ..." ปากอิ่มเม้มแน่นเมื่อริมฝีปากนั้นไล้ลงมาที่ลำคอ มือหนาตระคองกอดเอวบางของวอนอูไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ในขณะที่มืออีกข้างเลื่อนปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตตัวบางช้า ๆ



            "มันเป็นกลไกของร่างกายครับ เหมือนที่วอนอูทำให้ผมตื่นทุกครั้ง..." มือหนาดันเอวบางให้แนบชิดจนรู้สึกถึงความร้อนเบื้องล่าง คนตัวบางใบหน้าเห่อร้อนแต่กลับยิ้มมุมปากอย่างพอใจ



            "ต้องการฉันด้วยตัวนายเองได้แล้วหรอ มินกยู" คำถามนั้นทำให้ร่างสูงชะงัก ดวงตาเหลือบมองสบตากับเจ้าของใบหน้าสวยที่เปียกปอน ก่อนจะก้มลงจรดริมฝีปากกับผิวกายขาวซีดที่โผล่พ้นเสื้อ



            "วอนอูไม่รู้จริง ๆ หรอครับ..." ลมหายใจอุ่นกระทบกับผิวเย็นทุกคำพูดจนวอนอูตัวสั่น



            "ว่าผมให้วอนอูเป็นคนคุมเพราะอะไร?" ลิ้นร้อนถูกส่งออกมาไล้ไปตามกล้ามเนื้อและหยุดที่บริเวณเนื้อชมพู ตวัดเบา ๆ เรียกเสียงครางแผ่วจากอีกคน



            "...เพราะอะไร อะ..." ร่างบางสะดุ้งเมื่อริมฝีปากของมินกยูขบเม้มยอดอกเบา ๆ



            "เพราะผมไม่หยุดจนกว่าจะพอใจไงครับ" แรงขบเม้มเพิ่มขึ้นหลังคำพูดนั้นจบลง ทั้งยังไล่ไปตามผิวหนังที่เย็นเพราะน้ำฝนจนมันเริ่มเห่อร้อนขึ้นมา วอนอูตื่นเต้น ไม่สิ... เร้าใจจากสัมผัสหนักของมินกยูจนสีระเรื่อเจือจางขึ้นมาให้เห็น มินกยูไล่สายตามองอย่างพึงพอใจ เขารู้ว่าวอนอูชอบให้ทำอะไร... ตรงไหน... อย่างไร... ริมฝีปากร้อนไล่ไปทั่วตัวบาง เขาขบเม้มจนสีชมพูระเรื่อเริ่มกลายเป็นสีแดงช้ำ



            “มินกยูอย่าทำรอย...” เสียงแผ่วของร่างบางเอ่ย มือเรียวบางนั้นแตะใบหน้าขืนไว้ไม่ให้เขาทำต่อ มินกยูหันไปจุมพิตตามมือขาว ขบเม้มมันไม่ต่างจากผิวตัวเมื่อครู่ ดวงตาคมเหลือบมองสบตากับตาเรียว



            “วอนอูห้ามผมตอนนี้ไม่ได้หรอกครับเขาส่งยิ้มบางให้พลางแลบลิ้นแตะนิ้วมือบาง อ้าปากครอบนิ้วนั้นช้า ๆ ดูดดึงไล้เลียไปพร้อมกับสบตานิ่ง เขาเห็นริมฝีปากอิ่มเผยอออกและสั่นน้อย ๆ ใบหน้าเห่อร้อนและดวงตาปรือโปรยฉ่ำน้ำที่แม้จะมีผมบังบ้างแต่ก็เห็นชัดในระยะห่างเพียงแค่ไม่กี่นิ้ว เขาปล่อยนิ้วบางให้เป็นอิสระจากการคุกคามก่อนจะยิ้มให้



            “ชิมดูสิครับ วอนอูแค่เพียงกระซิบแผ่วเบาเท่านั้น วอนอูก็สอดนิ้วชุ่มชื้นนั้นเข้าไปในโพรงปาก สายตาที่มองมายังมินกยูทำให้เขาเผลอเลียปากอย่างกระหาย ลิ้นเล็กนั้นตวัดออกมาไล้เลียตามนิ้วของตนจนมินกยูต้องกลืนน้ำลายแม้จะยากลำบาก เขารู้... วอนอูก็รู้...



            “อยากกินแล้ว...” มินกยูก้าวเดินไล่ต้อนคนตัวบางไปจนถึงโต๊ะกลางสวน มือหนาจับให้สะโพกบางเอนพิงขอบโต๊ะก่อนจะลดใบหน้าลงไปอยู่ระดับเดียวกับขอบกางเกง มือหนาปลดกระดุมและรูดซิปลงช้า ๆ นิ้วยาวเกี่ยวทั้งกางเกงและชั้นในลง



            “มินกยู ที่นี่...”



            “ที่นี่แหละครับริมฝีปากร้อนแตะลงบนจุดอ่อนไหวจนวอนอูสะดุ้งเฮือก มินกยูค่อย ๆ ครอบครองวอนอูทีละน้อยจนร่างบางขัดใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะมือเรียวจำเป็นต้องจับขอบโต๊ะประคองร่างกายไม่ให้ทรุดลง ขาเรียวสั่นเทาทั้งจากความหนาวเย็นของน้ำฝนและอารมณ์ที่โดนปลุกปั่น



            “อะ มินกยูอย่า...” วอนอูสะดุ้งเมื่อมือหนาที่เย็นเฉียบแตะลงบนต้นขาข้างหนึ่งพร้อมกับจับยกขึ้นให้พาดบ่ากว้าง ใบหน้าหล่อคมฝังเข้าหาผิวเนื้อจนลมหายใจอุ่นรินรดหน้าท้องส่วนล่าง มือเรียวต้องเปลี่ยนจากขอบโต๊ะมาจับยึดร่างสูงแทนเพื่อถ่ายน้ำหนักไม่ให้ล้ม ถึงสะโพกบางจะกระตุกสั่นแต่วอนอูก็ทำอะไรไม่ได้มากกว่าการปล่อยให้มันเป็นอย่างนั้น เรี่ยวแรงหดหายเหมือนถูกร่างสูงสูบกินไปพร้อมกับส่วนอ่อนไหวนั้น



            ลิ้นหนาไล้ความหวานในโพรงปากของตนอย่างกระหาย มินกยูเคยออรัลให้วอนอูเพียงครั้งเดียวเท่านั้น และนั่นทำให้ร่างสูงรู้ว่าคนร่างบางไวสัมผัสมากแค่ไหน ร่างบางในวันนั้นช่างเหมือนกับตอนนี้ที่สั่นเทาไปทั้งร่าง เสียงครางถูกกลั้นไว้ด้วยการกัดริมฝีปาก มือหนาข้างที่ว่างแตะสัมผัสแผ่วเบาไล้ไปตามตัว ขึ้นไปเรื่อย ๆ จนถึงริมฝีปากอิ่ม นิ้วโป้งกดลงจนวอนอูต้องเผยอริมฝีปาก



            “มิน...มินกยู...” น้ำเสียงอ่อนแรงที่พยายามแทรกเสียงครางออกมาทำให้มินกยูรีบเร่งจังหวะของตน ร่างบางหอบหายใจหนักหน่วงและเริ่มติดขัด มือเรียวบีบกล้ามเนื้อใต้มือ เล็บจิกลงจนแทบจะทะลุเนื้อผ้า เมื่อร่างบางกระตุกพร้อมกับเสียงครางหวาน เสียงคำรามในลำคอของมินกยูก็ดังขึ้น ลิ้นร้อนไล้ออกช้า ๆ พร้อมกับริมฝีปากและมือหนาที่ผละออก มินกยูยกมือขึ้นสอดนิ้วเข้าไปในปาก เคลือบมันด้วยหยาดน้ำขุ่นที่ปนเปกับน้ำลาย



            “หันหลังสิครับวอนอูมินกยูยืดตัวขึ้นกระซิบข้างหู มืออีกข้างที่ไม่ได้เปรอะเปื้อนประคองเอวบางให้หันหลังตามที่ตนต้องการ ขาเรียวบางที่สั่นเทาทำให้มินกยูจุมพิตปลอบโยนที่ข้างแก้มแผ่วเบา



            “มินกยู... อึก...” ถึงอย่างนั้นร่างสูงก็ไม่ได้หยุดพักแต่อย่างใด นิ้วยาวที่เปียกชุ่มนั้นกดแทรกเข้าไปในตัวของวอนอูทีละน้อย ความรุ่มร้อนในกายที่ถูกแทรกด้วยความเย็นเยียบทำให้ร่างบางแทบสิ้นสติ มือบางที่ค้ำยันกับโต๊ะไว้สั่นกึกจนในที่สุดมันก็รับน้ำหนักไม่ไหว มือหนาอีกข้างของมินกยูโอบประคองไว้ได้ทันก่อนที่วอนอูจะกระแทกกับโต๊ะ



            “ใช้ศอกสิครับ ช้า ๆ ...” เสียงทุ้มกระซิบข้างหูแผ่วเบา ดวงตาคมมองแขนเรียวบางที่กำลังจัดท่าทางให้ตนเองอย่างเชื่องช้า แน่นอนว่ามินกยูไม่ได้หยุดการกระทำของมืออีกข้างแต่อย่างใด ทำให้กว่าวอนอูจะจัดการตัวเองได้ เสียงครางแผ่วก็ดังออกมาอยู่หลายครา



            เมื่อร่างบางถ่ายน้ำหนักของตนเองมั่นคงแล้ว มือหนาที่ลำตัวบางจึงผละออกมาปลดกระดุมเสื้อผ้าของตนบ้าง ไล่จากกระดุมเสื้อที่คอลงมาเรื่อย ๆ จนหมด นิ้วยาวปัดเสื้อของตนออกเล็กน้อยพอให้เห็นมัดกล้าม จากนั้นจึงดันปลายเข็มขัดออกรั้งให้หลุดหลวมแล้วจึงปลดกางเกงของตน การกระทำทั้งหมดของมินกยูนั้นวอนอูรับรู้ทุกอย่างเพราะร่างสูงจงใจก้มลงจนกายชิดกันแทบไม่เหลือช่องว่าง ทั้งมือที่ค่อย ๆ เลื่อนลงต่ำหรือการขยับปลดปราการชั้นต่าง ๆ วอนอูสัมผัสได้ทั้งหมด



            “อะ... ร้อน...” วอนอูอุทานออกมาเมื่อร่างกายที่แข็งขืนของมินกยูสัมผัสกับโคนขา ร่างสูงจงใจขยับกายเบา ๆ ให้ผิวเนื้อร้อนเสียดสีกัน เสียงครางแผ่วของร่างบางทำให้มินกยูเลิกพิรี้พิไรและถอนนิ้วออกมาจากช่องทางอุ่นร้อน ร่างสูงขยับตัวเล็กน้อยพลางดันกายกดความแข็งขืนของตนเองเข้าสู่ร่างบาง แน่นอนว่าความคับแน่นและร้อนรุ่มนั้นทำให้มันค่อนข้างจะติดขัด



            “ผ่อนคลายหน่อยสิครับเสียงกระซิบทุ้มต่ำพร้อมกับลมหายใจแผ่วข้างหูทำให้วอนอูตาปรือโปรย อารมณ์ทุกอย่างทุกด้านเท่าที่เขาจะนึกออกมันปนเปเพิ่มพุ่งจนสมองขาวโพลน ความเจ็บปวดด้านล่างเทียบไม่ได้เลยกับความสั่นสะท้านไปทั้งตัวเมื่อมือที่เย็นราวกับน้ำแข็งแตะเข้าที่ส่วนอ่อนไหวของร่างบางและกดน้ำหนักไล้ไปมาอย่างหนักหน่วง



            “มิน...กยู...” เสียงครางเรียกชื่อร่างสูงกระเส่านั้นทำให้มินกยูเผลอกระแทกตัวเข้าหาจนร่างบางกรีดร้อง เสียงหอบของทั้งสองคนคลอแผ่วเบาไปพร้อมกับเสียงฝนกระทบ มินกยูคำรามในลำคออื้ออึงเมื่อวอนอูตอดรัดร่างกายของเขาแน่น



            “ถ้าวอนอูยังรัดแน่นแบบนี้... อึก... มันจะไม่ดี...” ความปวดหนึบและตึงแน่นทำให้มินกยูรูดรั้งวอนอูเร็วขึ้นและหนักหน่วงขึ้นเรื่อย ๆ ร่างบางตัวสั่นเทิ้มและขยับสะโพกไปตามจังหวะที่ร่างสูงมอบให้อย่างลืมตัว เสียงคำรามต่ำข้างหูยิ่งทำให้ร่างบางส่งเสียงครางหวานออกมาคลอตาม



            “ฉัน...อ๊ะ... มิน...อ๊า!” ไม่ต้องพูดให้จับใจความได้มินกยูก็รู้ว่าวอนอูหมายถึงอะไร ร่างสูงส่งแรงหนักหน่วงเข้าหาจนวอนอูตัวคลอน สะโพกของทั้งสองเคลื่อนไหวสอดรับกันจนโต๊ะที่เป็นหลักค้ำของร่างบางสั่นเบา ๆ นิ้วมือเรียวบางกำขอบโต๊ะแน่นพอ ๆ กับแรงตอดรัดกายร้อนนั้น



            “วอนอู...” เสียงกระซิบสั่นคลอเคลียข้างหูก่อนที่ความร้อนจะประทับลงที่คอขาวและมอบความเจ็บปวดเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้ มินกยูขบเม้มและดูดดึงผิวขาวของร่างบางจนมันแดงช้ำ และด้วยจังหวะที่ทั้งสองส่งถึงกันทำให้ในบางจังหวะฟันคมของมินกยูก็ขบลงกับผิวนั้นจนเป็นรอยชัดเจน



            “เจ็บ...” วอนอูนิ่วหน้าเล็กน้อย มินกยูจึงประทับจุมพิตแผ่วเบาลงบนร่องรอยแดงช้ำเหล่านั้น มือหนาละออกจากส่วนอ่อนไหวร้อน ๆ เลื่อนมาจับสะโพกบางให้มั่น



            “วอนอูครับ วอนอู...” ร่างสูงเอ่ยเรียกพร้อมกับผ่อนแรงลง ดวงตาจดจ้องที่ใบหน้าอ่อนหวานแดงเรื่อ วอนอูเหลือบตามองก่อนจะพยักหน้าให้ มินกยูยิ้มบาง สัญญาณอนุญาตที่เขาต้องใช้เวลารอพอสมควรจนเหมือนถูกกลั่นแกล้งวันนี้กลับรอไม่นาน



มันคงเป็นสัญญาณอะไรสักอย่างด้วยเหมือนกันสินะ



มินกยูเริ่มเร่งจังหวะกระแทกกระทั้นของตัวเอง ความร้อนของทั้งสองคนหลอมรวมกันจนน่าอึดอัด เสียงหอบครางของทั้งคู่ประสานกันกับเสียงสายฝนที่ตกกระทบตัว แรงส่งจากร่างสูงถึงร่างบางเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนปวดทั้งทั้งช่วงล่าง มือเรียวบีบขอบโต๊ะจนนิ้วแทบชา มือหนาบีบเฟ้นเนื้อนิ่มจนเป็นรอยแดง ตีตราความบอบช้ำให้กับวอนอูมากขึ้นและมากขึ้น มินกยูซุกใบหน้าลงบนบ่าบาง ทิ้งตัวทาบทับจนแขนที่ใช้รับน้ำหนักสั่นเทา



มินกยูมินกยู…” เสียงครางสั่นนั้นเริ่มพึมพำชื่อของเขาออกมา ร่างสูงจรดริมฝีปากลงบนลำคอขาวแผ่วเบา ร่างหนาผละออกพร้อมกับมือข้างหนึ่งที่เลื่อนมาปรนเปรอให้ควมอุ่นร้อนของวอนอูอีกครั้ง ไม่ต้องรอนาน เสียงกรีดร้องวาบหวามและของเหลวสีขุ่นก็ออกมาพร้อมกัน



วอนอูครับวอนอู…” เสียงทุ้มสั่นกระซิบข้างหู แรงกระทั้นครั้งสุดท้ายเรียกเสียงครางสั่นจากอีกคนด้วยเช่นกัน ทั้งสองหอบหายใจจนตัวโยน วอนอูกระแอมไอเล็กน้อยเมื่อน้ำฝนเข้าโพรงคอและไหลลงคออย่างไม่ทันตั้งตัว มือหนาลูบแผ่นหลังบาง



เล่นน้ำฝนกันพอแล้วนะครับ วอนอูมินกยูจับประคองร่างบางให้ยืดตัวตรง อ้อมแขนแกร่งกอดร่างบางไว้หลวม ๆ ก่อนจะถอนกายออก วอนอูที่ตัวอ่อนปวกเปียกได้แต่จับแขนและบีบมันเมื่อความร้อนรุ่มนั้นค่อย ๆ หายไป แขนแกร่งนั้นรับน้ำหนักของวอนอูทั้งร่างไว้และก้าวเดินไปยังประตูที่ตนเองพาวอนอูออกมา ทิ้งเศษซากของเสื้อผ้าเปียกชุ่มไว้ข้างนอก รอให้แม่บ้านมาเก็บไปทำความสะอาด



อยากให้นายช่วยฉันแบบนี้ไปเรื่อย ๆ นะ…” เสียงแผ่วเบาของคนในอ้อมกอดทำให้มินกยูก้มลงมอง รอยยิ้มบางที่ประดับบนใบหน้าหวานทำให้มินกยูยิ้มตาม เขากอดกระชับร่างบอบบางก่อนจะจรดจุมพิตที่กลุ่มผมเปียกชื้นเบา ๆ






วอนอูไม่ต้องบอกผมก็รู้ครับ

















1 ความคิดเห็น:

  1. อาห์ อ่านจบแล้ว ตั้งแต่ไล่อ่านมายังไม่เจอคำผิดเลย เปรียบเทียบตัวละครดีจัง น้าน นานจะเจอฟิคอะไรแบบนี้ (คาดว่าคงไปขุดบล็อคอ่านต่อ นี่คือตอนพิเศษใช่ไหม) ที่ชอบคือคาแรคเตอร์ของมินกยู ,วอนอู สองคนนี้ดูเหมือนจะมีอะไรในใจทั้งคู่เลย แต่มินกยูนี่ดีนะ ทั้งๆที่รู้ว่าวอนอูมาใช้หนี้แทนยังให้เกียรติ คือดีอะ 555 น้านนานจะเจอ
    พี่วอนอูก็ดูแมนๆ แต่ก็น่าปกป้องด้วย เขียนดีจัง
    ไปตามอ่านเรื่องอื่นก่อน

    ตอบลบ