4 พฤศจิกายน 2559

[SEVENTEEN] [SF] เล่นเพื่อน EP2 (MINWON/MEANIE)

Title : เล่นเพื่อน EP2 (EP1[Series : มินวอนขี้เล่น]

Pairing : Mingyu x Wonwoo

Rate : PG-15

Words : ~2700

By : AKEmi

Note : มาต่อแล้วค่ะ น่าจะแค่สองตอนจบนี่แหละ แค่นี้พอแล้ว 555555 จะเห็นว่าเรามีเพิ่มแท็ก คือเพื่อนมาจุดประกายให้แตกหน่อซีรี่ส์เล่น...ออกไปเรื่อยๆ ก็เลยเอาเล๊ยยยย //ใจง่าย

ซีรี่ส์มินวอนขี้เล่นนี่คงจะเป็น OS หรือไม่ก็ SF ไม่เกิน 2-3 ตอนนะคะ แล้วก็...คงมี NC ทุกเรื่อง แหะๆ คิดว่าคงเป็นซีรี่ส์ที่เอาไว้ฝึกฝีมือน่ะค่ะ

ขอบพระคุณที่ให้ความรักความชอบกับเรื่องเล่นเพื่อนนี้นะคะ แอบตกใจยอดรี 55555 ยังไงก็ขอฝากซีรี่ส์มินวอนขี้เล่นต่อด้วยนะคะ จะพยายามพัฒนาฝีมือตัวเองให้ดีขึ้นแน่นอนค่ะ :)

Tag : #มินวอนขี้เล่น#มินวอนเล่นเพื่อน






















            หลังจากคืนนั้น วอนอูที่ป่วยง่ายก็ป่วยขึ้นมาตามคาด มินกยูที่เป็นตัวต้นเหตุจึงคอยดูแลอย่างดีด้วยความรู้สึกผิด คนตัวสูงวิ่งไปวิ่งกลับระหว่างคณะกับคอนโดในช่วงเที่ยงอยู่หลายวัน รวมทั้งไม่ไปแฮงเอ้าต์จนเพื่อนคนอื่นแปลกใจ



            "ทำไม 2-3 วันนี้มึงธุระเยอะจังวะ ไอ้หมา" ควอนซุนยองเอ่ยถามเมื่อเห็นมินกยูรีบเก็บกระเป๋าหลังเลกเชอร์ทรหดของวิชาบัญชีบริหาร



            "ไอ้วอนอูมันไม่สบายไง อยู่คนเดียวด้วย" มินกยูเอ่ยตอบพร้อมกับสะพายกระเป๋าขึ้นบ่า



            "เฮ้ย มันไม่สบายหนักเลยหรอวะ ปกติเห็นมันเป็นหวัดก็มาเรียนนี่หว่า" จุนฮวีขมวดคิ้ว ถึงเพื่อนตัวบางจะป่วยง่ายแต่ก็ไม่เคยป่วยหนักขนาดนี้



            "เออออออ กูไปและ" มินกยูตัดบทก่อนจะรีบออกจากห้องเรียน ทิ้งให้เพื่อนทั้งสองงุนงง











            เสียงประตูเปิดทำให้วอนอูเงยหน้าขึ้นมาจากเท็กซ์บุ๊คเล่มหนา ตาเรียวมองตามร่างสูงที่มาขลุกตัวอยู่ในห้องของเขาได้สามวันแล้ว



            "วันนี้มีควิซปะ"



            "ไม่มี แต่จารย์ยูอีแม่งเลกเชอร์อย่างโหด ถ้าจารย์พูดออกมาเป็นกระสุนกูคงพรุนทั้งตัว" มินกยูนั่งลงกับพื้นข้างเตียง เงยหน้าเอนหัวพิงขอบเตียงอย่างเหนื่อยอ่อน



            "นึกว่าจะมีควิซซะอีก..."



            "มึงนี่เซนส์ห่วยเหมือนเดิมเลยว่ะ" มินกยูหัวเราะ วอนอูไม่เคยคาดการณ์อะไรในห้องเรียนได้ถูกต้องสักครั้ง คิดว่าเช็คชื่อท้ายคาบเลยไปสายปรากฏว่าอาจารย์เช็คชื่อตั้งแต่เริ่มเรียน พอคิดว่าไม่มีควิซเลยหลับในห้องก็เจอควิซท้ายคาบอีก ผิดกับมินกยูที่เดาใจอาจารย์ถูกแทบจะทุกครั้ง



            "ใครจะเซนส์ดีกับการเรียนเหมือนมึงล่ะครับเพื่อน ทีเรื่องอันตรายนี่เซนส์ห่วยสัส ๆ " วอนอูจิกกัดไปเบา ๆ ก่อนจะอ่านหนังสือต่อ นอกจากเขาต้องอ่านล่วงหน้าก่อนสอบแล้วเขายังต้องมาตามอ่านบทที่เขาไม่ได้เข้าเรียนอีก



            "มึงเลิกแขวะกูเรื่องนี้ได้แล้วน่า" มินกยูหยิบชีทเรียนมาม้วนเป็นกระบอกกลม ๆ แล้วฟาดเข้าที่ศีรษะคนที่นั่งอ่านหนังสืออยู่หนึ่งที เสียงโวยวายเหมือนแมวขู่ฟ่อทำเอาร่างสูงหัวเราะอีกรอบ



            "ไอ้สัส! ก็มึงทำกูลุกไม่ขึ้นเนี่ย จะให้กูดีใจที่ไม่ได้ไปเรียนหรือไง จะสอบแล้วนะเว้ย" มือเรียวคว้าชีทพาวเวอร์พ้อยต์บทเรียนของวันนี้มาวางไว้ข้างตัว



            "เอออออออ ขอโทษ ก็ดูแลมึงอยู่นี่ไง แล้ววันนี้เดินไหวรึยัง" มือหนาเอื้อมไปยีผมนุ่ม ตาเรียวจ้องเขม็งก่อนจะปัดมือออก



            "ไหวแล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้กูไปเรียน" วอนอูเอ่ยตอบก่อนจะก้มลงไปอ่านหนังสือต่อ



            "โอเค ข้าวอยู่ที่ครัว หิวก็ลุกไปกิน ไม่ไหวก็ตะโกนเรียกกูแล้วกัน กูทำงานอยู่ในห้อง" มินกยูลุกขึ้นยืน



            "เออ ๆ ส่งที่มึงอัดเสียงวันนี้เข้าเมล์กูด้วย" วอนอูเอ่ย มินกยูพยักหน้า ตาคมมองร่างบางอยู่สักครู่ก่อนจะออกจากห้องไป


















            วันต่อมา




            "มึง!! ทางนี้!" เสียงตะโกนโหวกเหวกของซุนยองทำให้รูมเมททั้งสองหาเพื่อนของตนเจอได้อย่างไม่ยากเย็น มินกยูเดินประกบหลังวอนอูโดยที่มือหนายกขึ้นแตะหลังไว้ เผื่อเวลาร่างบางล้มจะได้ประคองทัน ถึงวอนอูจะบอกว่าไหวแต่ก็เดินเร็วมากไม่ได้อยู่ดี



            "มึงเอาไร?" เมื่อวอนอูนั่งเรียบร้อยและตนเองวางกระเป๋าแล้วก็เอ่ยถาม



            "ข้าวหมูผัดแล้วกัน มึงเอาน้ำไร" วอนอูตอบพร้อมกับจะลุกขึ้นยืนแต่มินกยูก็จับไหล่ไว้ให้นั่งลงตามเดิม



            "เดี๋ยวกูซื้อให้ มึงเอาน้ำไร"



            "กูไหวน่า เดี๋ยวกูไปซื้อเองก็ได้" วอนอูยกมือขึ้นปัดมืออีกคนออกแต่มินกยูก็จับไหล่บางไว้เหมือนเดิม




            "ไม่ต้อง มึงนั่งเฝ้ากระเป๋าอยู่นี่แหละ เอาน้ำไร" สายตาดุที่ได้รับทำให้วอนอูถอนหายใจออกมา ตั้งแต่เขาป่วยครั้งนี้มินกยูก็จู้จี้จุกจิกขึ้นเยอะมาก ไม่รู้อาการแม่บ้านมิงกำเริบหรือไง



            "โค้ก" ตอบเสียงเรียบพร้อมกับไถตัวลงนอนกอดกระเป๋าใบโตของอีกคนไว้ วันนี้เขาไม่ได้สะพายกระเป๋าตัวเองมาเพราะเข้าคลาสเดียวกับมินกยูและคงกลับด้วยกัน ถึงจะไปเที่ยวเล่นหลังเรียนเสร็จก็คงไปด้วยกันอยู่ดี



            "จัดให้! รอแป๊บ" มือหนายีผมที่ยุ่งอยู่แล้วให้ฟูขึ้นไปอีก ก่อนจะผละออกเพื่อไปซื้อข้าวซื้อน้ำตามออร์เดอร์ที่ได้รับมา



            "ไอ้นี่..." วอนอูแยกเขี้ยวไล่หลังคนตัวสูงกว่า นิ้วเรียวสางผมของตัวเองให้เรียบร้อยก่อนจะซบหน้ากับกระเป๋าอีกรอบ



            หลังจากมินกยูจัดการซื้อข้าวซื้อน้ำให้เสร็จเรียบร้อยก็นั่งกินกันอย่างดี...มั้ง...


            "กินให้มันเยอะ ๆ หน่อยดิวะ"


            "มึงก็กินเอง กูจะกินแค่นี้"


            "กิน ๆ เข้าไปเยอะ ๆ ร่างกายจะได้เอาไปใช้ฟื้นตัว กินหมูให้หมด เนี่ยโปรตีนไว้ซ่อมแซมร่างกายมึง"


            "ตีนที่หน้ามึงน่ะสิ ไม่กินเว้ย! อิ่ม!"


            "อิ่มเชี่ยไร! แดกให้หมด!"


            "กูไม่แดก!"



            "เอ่อ... พวกมึงครับ จุ๊ ๆ นิดนึง" ซุนยองตัดสินใจพูดแทรกขึ้นมาแล้วชี้ไปรอบ ๆ โต๊ะ ทั้งสองหันไปมองแล้วเจอกับสายตาหลายคู่จึงยิ้มเจื่อนพลางก้มหัวปะหลก ๆ



            "ขอโทษครับ..." เอ่ยออกมาพร้อมกันเบา ๆ แล้วจึงหันกลับมา



            "กินเข้าไป" มินกยูเอ่ยลอดไรฟันพร้อมกับสายตาดุ วอนอูพ่นลมหายใจแรง ๆ ก่อนจะยอมจิ้มหมูผัดเข้าปาก ก็รู้แหละว่ามินกยูไม่เคยลดราวาศอก แต่นี่ก็ข้าวเขานะเว้ย...



            "พวกมึง...เป็นแฟนกันแล้วหรือไงวะ?" จุนฮวีที่เท้าคางนั่งมองมาตั้งแต่แรกเลิกคิ้วเอ่ยถาม



            "แฟนเหี้ยไรล่ะ!" วอนอูเสียงดังก่อนจะโดนซุนยองจ้องเขม็ง ร่างบางจึงก้มหัวปะหลก ๆ พร้อมเอ่ยขอโทษกับคนรอบ ๆ อีกครั้ง



            "กูดูดูแลมันดีขนาดนั้น?" มินกยูเอ่ยถามพร้อมกับยกขวดน้ำขึ้นดื่ม



            "เออสิวะ นี่กูนึกว่ามันเป็นเมียมึงแล้วเนี่ย" คำพูดของจุนฮวีทำเอาวอนอูที่กำลังจะกลืนหมูผัดสำลักจนมินกยูต้องกุลีกุจอลูบหลังให้



            "แม่งเป็นผัวเมียกันแล้วแน่ ๆ ยังไงวะพวกมึงเนี่ย" ซุนยองหรี่ตามอง



            "เปล๊า ไม่ได้เป็---"



            "เปล่าเหี้ยไรเสียงสูง เล่ามา" จุนฮวีจ้องเขม็ง วอนอูเม้มปากก่อนจะเหลือบมองมินกยูที่เหลือบมองมาเช่นกัน



            "เออออออ ความผิดกูเอง" มินกยูยอมเอ่ยปากจนได้ ซุนยองตบมือเข้าหากันเมื่อสิ่งที่คิดไว้เป็นจริง



            "ไอ้สัส..." วอนอูสบถเบา ๆ ก่อนจะซบกับกระเป๋าของมินกยูอีกครั้ง คราวนี้คนตัวบางกอดกระเป๋าแน่นไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมา



            "ก็เมื่อวันจันทร์ที่กูไปเดอะเลานจ์อะ พี่จีฮโยแม่งวอแว กูก็เลยกลับ แต่เค้าเสือกวางยากู แล้วก็... เอออออออ นั่นแหละ" มินกยูพูดรัวเร็วโดยมีเสียงคร่ำครวญจากวอนอูที่นอนอยู่ข้าง ๆ คลอไปด้วย



            "เชี่ยเอ๊ย... มึงแม่งไม่เล่าให้ใครฟังเสือกเล่าให้ควอนซุนยองฟัง" เสียงคร่ำครวญจากวอนอูทำเอาจุนฮวีกับมินกยูกลั้นขำแทบไม่ทัน



            "ควอนซุนยองแล้วทำไมห๊ะ ไอ้สัส" คนตาตี่มองคนตัวบางเขม็ง วอนอูเงยหน้าขึ้นมามองแล้วยิ้มเจื่อน



            "เออมึงนั่งอยู่ด้วยนี่หว่า กูลืม โทด ๆ " มือบางโบกไปมาส่ง ๆ



            "ไอ้สัส กวนตีน" หมัดเบา ๆ ชกเข้าที่หน้าผาก วอนอูแกล้งร้องโอดโอย มันก็ไม่ทำไมหรอกแค่ควอนซุนยองขึ้นชื่อว่าเป็นคนกระจายข่าวประจำคณะเท่านั้นเอง...



            "ทีนี้แม่งรู้กันหมดว่ากูเป็นเมียมัน เชี่ยเอ๊ย" คำพูดจากวอนอูยังคงเรียกเสียงหัวเราะจากอีกสองคนได้ดี



            "เป็นเมียกูก็ไม่เห็นเป็นไรปะวะ" มินกยูเอนตัวลงหนุนแขนให้ใบหน้าอยู่ระดับเดียวกับวอนอูพลางเอ่ยถาม



            "ไม่เป็นเชี่ยไรล่ะ ไปไกล ๆ ตีนกูเลย" หันหน้าหนีพร้อมกับยกเท้าถีบขาอีกคนใต้โต๊ะจนคนตังสูงสะดุ้ง



            "แม่งสวีทกันเฉย ไปกันเถอะว่ะซุนยอง ปล่อยให้ข้าวใหม่ปลามันเค้าง้องอนกัน" จุนฮวีกลอกตามองบนก่อนจะลุกขึ้นยืน



            "พวกมึงอย่าเพิ่งไปดิ" วอนอูรีบดึงชายแขนเสื้อซุนยองไว้พร้อมกับเงยหน้ามอง



            "ไม่ต้องมาอ้อนกูเลย ไอ้แมว ไปอ้อนผัวมึงนู่น" ซุนยองพยักเพยิดไปทางมินกยูที่เปลี่ยนเป็นเท้าคางมอง



            "ผัวเชี่ยไรล่ะ! แม่งเอ๊ย อย่ามายื้มเลกเชอร์มาร์เก็ตติ้งกูแล้วกันเพราะกูไม่ให้"



            "กูไม่ง้อมึงหรอก กูมีเลกเชอร์พี่จีซูของกูแล้ว" ซุนยองหัวเราะใส่ วอนอูจิ๊ปากอย่างหงุดหงิดที่คำขู่ไม่ช่วยอะไร



            "ง้อกันไปนะมึง อย่าลืมเข้าคลาสจารย์โซยอง" จุนฮวีโบกมือลาก่อนจะเดินออกไปกับซุนยอง



            "แม่งเอ๊ย เพื่อนทรยศ" ปากขมุบขมิบบ่นพลางเหลือบมองคนตัวสูงที่ยิ้มให้



            "ยิ้มเชี่ยไร ไอ้เพื่อนทรยศเบอร์หนึ่ง"



            "ไม่ใช่เพื่อน ตอนนี้เป็นผัวแล้ว" มินกยูเอ่ยยิ้ม ๆ พร้อมกับยักคิ้วให้



            "สัส!" เท้าเหยียบลงไปบนเท้าของอีกคนแต่ไม่สาแก่ใจวอนอูพอ ร่างบางยังลงน้ำหนักขยี้เท้าจนมินกยูต้องรีบจับขาอีกคนออก



            "โอ๊ยยยย! อย่าทำร้ายกูดิ" หลังจากจัดการให้วอนอูหยุดทำร้ายตัวเองได้แล้วก็ส่งสายตาออดอ้อนใส่จนวอนอูหมั่นไส้ นิ้วเรียวเคาะหน้าผากของมินกยูไปอีกทีเบา ๆ



            "แหม ไม่ดูสิ่งที่มึงพูดเลยนะครับ ไอ้นี่..." วอนอูกลับไปกอดกระเป๋านอนเช่นเดิม ในหัวคิดเรื่องเกี่ยวกับตัวเองและมินกยูจนคิ้วขมวด มินกยูเองก็นั่งมองเงียบ ๆ จมอยู่ในความคิดตัวเองเช่นกัน



            "แล้วมึงคิดว่าไง" เสียงทุ้มโพล่งถามขึ้นมา ตาเรียวเหลือบมองสบกับตาคมที่มองมาอย่างจริงจัง



            "เรื่องไร เป็นผัวเมียกะมึงอะนะ?"



            "เออ นี่กูแอบคิดจริงจังนะเนี่ย" มินกยูเอนตัวลงนอนหนุนแขนอีกครั้ง สายตาที่อยู่ในระดับเดียวกันทำให้เห็นแววตาของอีกคนชัดเจนขึ้น ทั้งสองมองตากันโดยที่ในหัวมีความคิดวุ่นวายตีกันไปหมด





            วอนอูพิจารณาแววตาของมินกยูอย่างละเอียดลออ ตัวเขาเองก็อ่านแววตาใครไม่ค่อยออกสักเท่าไหร่หรอก แต่ความจริงจังของมินกยูนั้นส่งมาค่อนข้างชัดเจนจนเขารู้สึกได้ ความจริงจังนั้นก็เจือไปด้วยอะไรบางอย่างที่เขาก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่มันทำให้เขาไว้ใจมินกยูมากทีเดียว



            "เชื่อใจฉันนะ"

            เสียงทุ้มที่เอ่ยอย่างหนักแน่นแว้บเข้ามาในหัว วอนอูเม้มปากเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ในหลายวันที่ผ่านมา

            "ขอโทษนะครับ..."

            สัมผัสจุมพิตแผ่วบนริมฝีปากนั้นก็ยังคงเด่นชัดเช่นเดียวกับสัมผัสตามร่างกาย วอนอูซุกหน้าลงกับกระเป๋าใบโต พยายามกำจัดภาพน่าอายออกไปจากศีรษะแต่ก็ยากเหลือเกิน


            เขาคงไม่มีวันลืม...และคงไม่มีทางที่จะลืมมันแน่ ๆ




            "แต่...กูยังเห็นมึงเป็นเพื่อนกูอยู่..." วอนอูตัดสินใจเอ่ยออกไป คนตัวบางหันหน้ามามอง แอบสะดุ้งเล็กน้อยที่ใบหน้าคมนั้นอยู่ใกล้กว่าเดิม



            "แต่มึงเขินกูอยู่นะ" ตาเรียวกะพริบตาปริบ ๆ กับคำพูดของคนตัวสูง



            "เขินเชี่ยไ---"



            "หูมึงแดง" มินกยูเขยิบใบหน้าเข้าไปใกล้มากขึ้น แขนบางกอดกระชับกระเป๋าแน่น



            "หน้ามึงด้วย" ใบหน้าหล่อยกยิ้ม วอนอูหลับตาปี๋เมื่อรู้สึกถึงลมหายใจของอีกคนที่คลอใบหน้าของเขา



            "โอ๊ยยยยย กูไปแล้ว!" วอนอูตัดสินใจลุกขึ้นยืนแต่ก็ต้องเท้าแขนกับโต๊ะไว้เพราะอาการปวดที่แล่นปราดขึ้นมา



            "ทำไมยังปวดอยู่วะ..." พึมพำอย่างหงุดหงิดก่อนจะสะดุ้งเพราะมือหนาที่ยกขึ้นมาแตะเอว



            "มึงลุกช้า ๆ ดิวะ" มินกยูลุกขึ้นประคองเอวบางให้ออกจากที่นั่ง ก่อนจะเก็บรวบรวมจานเปล่าไปวางตรงที่เก็บโดยมีวอนอูสะพายกระเป๋าเดินตามมา



            "ไม่เห็นต้องตามมานี่หว่า กูก็บอกอยู่ว่ากระเป๋ามันหนัก เอามานี่" มือหนาแบออกพร้อมกับสายตาดุ วอนอูจึงส่งกระเป๋าให้อย่างเสียไม่ได้



            "กูก็ผู้ชายมะ ไม่ได้อ่อนแอเหมือนผู้หญิงที่ต้องให้มึงคอยถือกระเป๋าให้นะเว้ย" ร่างบางจิ๊ปากเบา ๆ อย่างไม่สบอารมณ์



            "แต่มึงเป็นเมียกู แล้วนี่ก็กระเป๋ากูถ้ามึงไม่ลืม" มินกยูพยักเพยิดให้ร่างบางเดินนำไปก่อน วอนอูถอนหายใจก่อนจะออกเดินโดยมีมินกยูที่คอยแตะเอวประคองให้ตามมาติด ๆ





            "สรุปมึงจะเป็นผัวกูให้ได้เลยใช่มั้ย" วอนอูเอ่ยถามระหว่างทาง แอบถอนหายใจตอนหันไปมองมินกยู



            "ก็เป็นแล้วปะวะ โอ๊ย! อย่าชกแขนกู" มือหนายกลูบต้นแขนตัวเองยกใหญ่เมื่อหมัดที่ไม่เบานักปะทะเข้ามาเต็มแรง



            "นี่กูจริงจัง" วอนอูหยุดเดินแล้วหันมาเผชิญหน้ากับร่างสูง



            "เอออออออ กูก็บอกว่ากูจริงจังไง" มือหนายกขึ้นยีผมนุ่มของอีกคนเบา ๆ รอยยิ้มบางที่ส่งให้วอนอูทำให้เจ้าตัวรู้สึกอบอุ่นแปลก ๆ



            "งั้น...ดูแลกูดี ๆ " วอนอูชูนิ้วก้อยขึ้นมา มินกยูมองพลางหัวเราะเบา ๆ แต่ก่อนที่อีกคนจะโวยวายมือหนาก็ยกมือตัวเองขึ้นมาเกี่ยวก้อยด้วย มินกยูขยับมือให้นิ้วโป้งแตะชนกับปลายนิ้วโป้งของวอนอู สัญลักษณ์มือที่พวกเขาทำด้วยกันตั้งแต่เป็นเพื่อน ตอนนี้มันได้ขยับไปอีกขั้นหนึ่งแล้ว...



            "จัดให้ครับ คุณภรรยา" มินกยูฉีกยิ้มแล้วเปลี่ยนมากุมมือบางไว้



            "ไม่ต้องมาเสือกสุภาพ ไอ้สัส" วอนอูกลอกตาใส่ มือบางจะสะบัดออกแต่มือหนาจับไว้แน่นแล้วดึงให้เดินต่อ



            "ก็กูบอกว่ากูชอบสุภาพไง จะได้พระเอก ๆ มึงอะ อย่าขัดมู้ดกูดิ"



            "ไม่ต้องมาพระเอกกะกู ไอ้ชั่ว"



            "อย่าว่าสามีสิคร้าบ~" มินกยูแกล้งเบะปากใส่



            "กวนตีนนะ มึงน่ะ" มือข้างที่ว่างของวอนอูยกขึ้นแล้วดีดปากร่างสูงจนอีกคนร้องโอดโอย เมื่อได้ทีวอนอูก็สะบัดมือออกแล้วรีบเดินเข้าห้องเรียน



            มินกยูมองตามวอนอูไปก่อนจะยิ้มกับตัวเอง เขาเองก็ไม่เข้าใจตัวเองนักหรอกว่าทำไมจู่ ๆ ถึงคิดจริงจังกับจอนวอนอูขึ้นมา แต่เขาอยากเห็นหน้าวอนอูทุก ๆ วันแบบนี้ไปเรื่อย ๆ เขารู้สึกว่าใบหน้านั้นน่ารักโดยเฉพาะเวลาที่เขินคำพูดของเขาแบบเมื่อกี๊






            อยากจูบปากชมพู ๆ นั่นชะมัด ไม่ได้จูบมาหลายวันแล้ว...






















ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น