Pairing : Mingyu x Wonwoo
Rate : PG-15
Words : ~2700
By : AKEmi
Note : มาต่อแล้วค่ะ น่าจะแค่สองตอนจบนี่แหละ แค่นี้พอแล้ว 555555 จะเห็นว่าเรามีเพิ่มแท็ก คือเพื่อนมาจุดประกายให้แตกหน่อซีรี่ส์เล่น...ออกไปเรื่อยๆ ก็เลยเอาเล๊ยยยย //ใจง่าย
ซีรี่ส์มินวอนขี้เล่นนี่คงจะเป็น OS หรือไม่ก็ SF ไม่เกิน 2-3 ตอนนะคะ แล้วก็...คงมี NC ทุกเรื่อง แหะๆ คิดว่าคงเป็นซีรี่ส์ที่เอาไว้ฝึกฝีมือน่ะค่ะ
ขอบพระคุณที่ให้ความรักความชอบกับเรื่องเล่นเพื่อนนี้นะคะ แอบตกใจยอดรี 55555 ยังไงก็ขอฝากซีรี่ส์มินวอนขี้เล่นต่อด้วยนะคะ จะพยายามพัฒนาฝีมือตัวเองให้ดีขึ้นแน่นอนค่ะ :)
Tag : #มินวอนขี้เล่น, #มินวอนเล่นเพื่อน
หลังจากคืนนั้น
วอนอูที่ป่วยง่ายก็ป่วยขึ้นมาตามคาด
มินกยูที่เป็นตัวต้นเหตุจึงคอยดูแลอย่างดีด้วยความรู้สึกผิด
คนตัวสูงวิ่งไปวิ่งกลับระหว่างคณะกับคอนโดในช่วงเที่ยงอยู่หลายวัน
รวมทั้งไม่ไปแฮงเอ้าต์จนเพื่อนคนอื่นแปลกใจ
"ทำไม 2-3 วันนี้มึงธุระเยอะจังวะ ไอ้หมา" ควอนซุนยองเอ่ยถามเมื่อเห็นมินกยูรีบเก็บกระเป๋าหลังเลกเชอร์ทรหดของวิชาบัญชีบริหาร
"ไอ้วอนอูมันไม่สบายไง อยู่คนเดียวด้วย"
มินกยูเอ่ยตอบพร้อมกับสะพายกระเป๋าขึ้นบ่า
"เฮ้ย มันไม่สบายหนักเลยหรอวะ ปกติเห็นมันเป็นหวัดก็มาเรียนนี่หว่า"
จุนฮวีขมวดคิ้ว ถึงเพื่อนตัวบางจะป่วยง่ายแต่ก็ไม่เคยป่วยหนักขนาดนี้
"เออออออ กูไปและ" มินกยูตัดบทก่อนจะรีบออกจากห้องเรียน
ทิ้งให้เพื่อนทั้งสองงุนงง
เสียงประตูเปิดทำให้วอนอูเงยหน้าขึ้นมาจากเท็กซ์บุ๊คเล่มหนา
ตาเรียวมองตามร่างสูงที่มาขลุกตัวอยู่ในห้องของเขาได้สามวันแล้ว
"วันนี้มีควิซปะ"
"ไม่มี แต่จารย์ยูอีแม่งเลกเชอร์อย่างโหด
ถ้าจารย์พูดออกมาเป็นกระสุนกูคงพรุนทั้งตัว" มินกยูนั่งลงกับพื้นข้างเตียง
เงยหน้าเอนหัวพิงขอบเตียงอย่างเหนื่อยอ่อน
"นึกว่าจะมีควิซซะอีก..."
"มึงนี่เซนส์ห่วยเหมือนเดิมเลยว่ะ" มินกยูหัวเราะ
วอนอูไม่เคยคาดการณ์อะไรในห้องเรียนได้ถูกต้องสักครั้ง
คิดว่าเช็คชื่อท้ายคาบเลยไปสายปรากฏว่าอาจารย์เช็คชื่อตั้งแต่เริ่มเรียน
พอคิดว่าไม่มีควิซเลยหลับในห้องก็เจอควิซท้ายคาบอีก
ผิดกับมินกยูที่เดาใจอาจารย์ถูกแทบจะทุกครั้ง
"ใครจะเซนส์ดีกับการเรียนเหมือนมึงล่ะครับเพื่อน
ทีเรื่องอันตรายนี่เซนส์ห่วยสัส ๆ " วอนอูจิกกัดไปเบา ๆ ก่อนจะอ่านหนังสือต่อ
นอกจากเขาต้องอ่านล่วงหน้าก่อนสอบแล้วเขายังต้องมาตามอ่านบทที่เขาไม่ได้เข้าเรียนอีก
"มึงเลิกแขวะกูเรื่องนี้ได้แล้วน่า" มินกยูหยิบชีทเรียนมาม้วนเป็นกระบอกกลม
ๆ แล้วฟาดเข้าที่ศีรษะคนที่นั่งอ่านหนังสืออยู่หนึ่งที
เสียงโวยวายเหมือนแมวขู่ฟ่อทำเอาร่างสูงหัวเราะอีกรอบ
"ไอ้สัส! ก็มึงทำกูลุกไม่ขึ้นเนี่ย จะให้กูดีใจที่ไม่ได้ไปเรียนหรือไง
จะสอบแล้วนะเว้ย" มือเรียวคว้าชีทพาวเวอร์พ้อยต์บทเรียนของวันนี้มาวางไว้ข้างตัว
"เอออออออ ขอโทษ ก็ดูแลมึงอยู่นี่ไง แล้ววันนี้เดินไหวรึยัง"
มือหนาเอื้อมไปยีผมนุ่ม ตาเรียวจ้องเขม็งก่อนจะปัดมือออก
"ไหวแล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้กูไปเรียน" วอนอูเอ่ยตอบก่อนจะก้มลงไปอ่านหนังสือต่อ
"โอเค ข้าวอยู่ที่ครัว หิวก็ลุกไปกิน ไม่ไหวก็ตะโกนเรียกกูแล้วกัน
กูทำงานอยู่ในห้อง" มินกยูลุกขึ้นยืน
"เออ ๆ ส่งที่มึงอัดเสียงวันนี้เข้าเมล์กูด้วย" วอนอูเอ่ย
มินกยูพยักหน้า ตาคมมองร่างบางอยู่สักครู่ก่อนจะออกจากห้องไป
วันต่อมา
"มึง!! ทางนี้!" เสียงตะโกนโหวกเหวกของซุนยองทำให้รูมเมททั้งสองหาเพื่อนของตนเจอได้อย่างไม่ยากเย็น
มินกยูเดินประกบหลังวอนอูโดยที่มือหนายกขึ้นแตะหลังไว้
เผื่อเวลาร่างบางล้มจะได้ประคองทัน ถึงวอนอูจะบอกว่าไหวแต่ก็เดินเร็วมากไม่ได้อยู่ดี
"มึงเอาไร?" เมื่อวอนอูนั่งเรียบร้อยและตนเองวางกระเป๋าแล้วก็เอ่ยถาม
"ข้าวหมูผัดแล้วกัน มึงเอาน้ำไร" วอนอูตอบพร้อมกับจะลุกขึ้นยืนแต่มินกยูก็จับไหล่ไว้ให้นั่งลงตามเดิม
"เดี๋ยวกูซื้อให้ มึงเอาน้ำไร"
"กูไหวน่า เดี๋ยวกูไปซื้อเองก็ได้"
วอนอูยกมือขึ้นปัดมืออีกคนออกแต่มินกยูก็จับไหล่บางไว้เหมือนเดิม
"ไม่ต้อง มึงนั่งเฝ้ากระเป๋าอยู่นี่แหละ เอาน้ำไร"
สายตาดุที่ได้รับทำให้วอนอูถอนหายใจออกมา
ตั้งแต่เขาป่วยครั้งนี้มินกยูก็จู้จี้จุกจิกขึ้นเยอะมาก
ไม่รู้อาการแม่บ้านมิงกำเริบหรือไง
"โค้ก" ตอบเสียงเรียบพร้อมกับไถตัวลงนอนกอดกระเป๋าใบโตของอีกคนไว้
วันนี้เขาไม่ได้สะพายกระเป๋าตัวเองมาเพราะเข้าคลาสเดียวกับมินกยูและคงกลับด้วยกัน
ถึงจะไปเที่ยวเล่นหลังเรียนเสร็จก็คงไปด้วยกันอยู่ดี
"จัดให้! รอแป๊บ" มือหนายีผมที่ยุ่งอยู่แล้วให้ฟูขึ้นไปอีก ก่อนจะผละออกเพื่อไปซื้อข้าวซื้อน้ำตามออร์เดอร์ที่ได้รับมา
"ไอ้นี่..." วอนอูแยกเขี้ยวไล่หลังคนตัวสูงกว่า
นิ้วเรียวสางผมของตัวเองให้เรียบร้อยก่อนจะซบหน้ากับกระเป๋าอีกรอบ
หลังจากมินกยูจัดการซื้อข้าวซื้อน้ำให้เสร็จเรียบร้อยก็นั่งกินกันอย่างดี...มั้ง...
"กินให้มันเยอะ ๆ หน่อยดิวะ"
"มึงก็กินเอง กูจะกินแค่นี้"
"กิน ๆ เข้าไปเยอะ ๆ ร่างกายจะได้เอาไปใช้ฟื้นตัว กินหมูให้หมด
เนี่ยโปรตีนไว้ซ่อมแซมร่างกายมึง"
"ตีนที่หน้ามึงน่ะสิ ไม่กินเว้ย! อิ่ม!"
"อิ่มเชี่ยไร! แดกให้หมด!"
"กูไม่แดก!"
"เอ่อ... พวกมึงครับ จุ๊ ๆ นิดนึง"
ซุนยองตัดสินใจพูดแทรกขึ้นมาแล้วชี้ไปรอบ ๆ โต๊ะ
ทั้งสองหันไปมองแล้วเจอกับสายตาหลายคู่จึงยิ้มเจื่อนพลางก้มหัวปะหลก ๆ
"ขอโทษครับ..." เอ่ยออกมาพร้อมกันเบา ๆ แล้วจึงหันกลับมา
"กินเข้าไป" มินกยูเอ่ยลอดไรฟันพร้อมกับสายตาดุ วอนอูพ่นลมหายใจแรง ๆ
ก่อนจะยอมจิ้มหมูผัดเข้าปาก ก็รู้แหละว่ามินกยูไม่เคยลดราวาศอก
แต่นี่ก็ข้าวเขานะเว้ย...
"พวกมึง...เป็นแฟนกันแล้วหรือไงวะ?" จุนฮวีที่เท้าคางนั่งมองมาตั้งแต่แรกเลิกคิ้วเอ่ยถาม
"แฟนเหี้ยไรล่ะ!" วอนอูเสียงดังก่อนจะโดนซุนยองจ้องเขม็ง
ร่างบางจึงก้มหัวปะหลก ๆ พร้อมเอ่ยขอโทษกับคนรอบ ๆ อีกครั้ง
"กูดูดูแลมันดีขนาดนั้น?" มินกยูเอ่ยถามพร้อมกับยกขวดน้ำขึ้นดื่ม
"เออสิวะ นี่กูนึกว่ามันเป็นเมียมึงแล้วเนี่ย"
คำพูดของจุนฮวีทำเอาวอนอูที่กำลังจะกลืนหมูผัดสำลักจนมินกยูต้องกุลีกุจอลูบหลังให้
"แม่งเป็นผัวเมียกันแล้วแน่ ๆ ยังไงวะพวกมึงเนี่ย" ซุนยองหรี่ตามอง
"เปล๊า ไม่ได้เป็---"
"เปล่าเหี้ยไรเสียงสูง เล่ามา" จุนฮวีจ้องเขม็ง
วอนอูเม้มปากก่อนจะเหลือบมองมินกยูที่เหลือบมองมาเช่นกัน
"เออออออ ความผิดกูเอง" มินกยูยอมเอ่ยปากจนได้
ซุนยองตบมือเข้าหากันเมื่อสิ่งที่คิดไว้เป็นจริง
"ไอ้สัส..." วอนอูสบถเบา ๆ ก่อนจะซบกับกระเป๋าของมินกยูอีกครั้ง
คราวนี้คนตัวบางกอดกระเป๋าแน่นไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมา
"ก็เมื่อวันจันทร์ที่กูไปเดอะเลานจ์อะ พี่จีฮโยแม่งวอแว กูก็เลยกลับ
แต่เค้าเสือกวางยากู แล้วก็... เอออออออ นั่นแหละ"
มินกยูพูดรัวเร็วโดยมีเสียงคร่ำครวญจากวอนอูที่นอนอยู่ข้าง ๆ คลอไปด้วย
"เชี่ยเอ๊ย... มึงแม่งไม่เล่าให้ใครฟังเสือกเล่าให้ควอนซุนยองฟัง"
เสียงคร่ำครวญจากวอนอูทำเอาจุนฮวีกับมินกยูกลั้นขำแทบไม่ทัน
"ควอนซุนยองแล้วทำไมห๊ะ ไอ้สัส" คนตาตี่มองคนตัวบางเขม็ง
วอนอูเงยหน้าขึ้นมามองแล้วยิ้มเจื่อน
"เออมึงนั่งอยู่ด้วยนี่หว่า กูลืม โทด ๆ " มือบางโบกไปมาส่ง ๆ
"ไอ้สัส กวนตีน" หมัดเบา ๆ ชกเข้าที่หน้าผาก วอนอูแกล้งร้องโอดโอย
มันก็ไม่ทำไมหรอกแค่ควอนซุนยองขึ้นชื่อว่าเป็นคนกระจายข่าวประจำคณะเท่านั้นเอง...
"ทีนี้แม่งรู้กันหมดว่ากูเป็นเมียมัน เชี่ยเอ๊ย" คำพูดจากวอนอูยังคงเรียกเสียงหัวเราะจากอีกสองคนได้ดี
"เป็นเมียกูก็ไม่เห็นเป็นไรปะวะ"
มินกยูเอนตัวลงหนุนแขนให้ใบหน้าอยู่ระดับเดียวกับวอนอูพลางเอ่ยถาม
"ไม่เป็นเชี่ยไรล่ะ ไปไกล ๆ ตีนกูเลย"
หันหน้าหนีพร้อมกับยกเท้าถีบขาอีกคนใต้โต๊ะจนคนตังสูงสะดุ้ง
"แม่งสวีทกันเฉย ไปกันเถอะว่ะซุนยอง
ปล่อยให้ข้าวใหม่ปลามันเค้าง้องอนกัน" จุนฮวีกลอกตามองบนก่อนจะลุกขึ้นยืน
"พวกมึงอย่าเพิ่งไปดิ"
วอนอูรีบดึงชายแขนเสื้อซุนยองไว้พร้อมกับเงยหน้ามอง
"ไม่ต้องมาอ้อนกูเลย ไอ้แมว ไปอ้อนผัวมึงนู่น"
ซุนยองพยักเพยิดไปทางมินกยูที่เปลี่ยนเป็นเท้าคางมอง
"ผัวเชี่ยไรล่ะ! แม่งเอ๊ย
อย่ามายื้มเลกเชอร์มาร์เก็ตติ้งกูแล้วกันเพราะกูไม่ให้"
"กูไม่ง้อมึงหรอก กูมีเลกเชอร์พี่จีซูของกูแล้ว" ซุนยองหัวเราะใส่ วอนอูจิ๊ปากอย่างหงุดหงิดที่คำขู่ไม่ช่วยอะไร
"ง้อกันไปนะมึง อย่าลืมเข้าคลาสจารย์โซยอง"
จุนฮวีโบกมือลาก่อนจะเดินออกไปกับซุนยอง
"แม่งเอ๊ย เพื่อนทรยศ" ปากขมุบขมิบบ่นพลางเหลือบมองคนตัวสูงที่ยิ้มให้
"ยิ้มเชี่ยไร ไอ้เพื่อนทรยศเบอร์หนึ่ง"
"ไม่ใช่เพื่อน ตอนนี้เป็นผัวแล้ว" มินกยูเอ่ยยิ้ม ๆ
พร้อมกับยักคิ้วให้
"สัส!" เท้าเหยียบลงไปบนเท้าของอีกคนแต่ไม่สาแก่ใจวอนอูพอ ร่างบางยังลงน้ำหนักขยี้เท้าจนมินกยูต้องรีบจับขาอีกคนออก
"โอ๊ยยยย! อย่าทำร้ายกูดิ" หลังจากจัดการให้วอนอูหยุดทำร้ายตัวเองได้แล้วก็ส่งสายตาออดอ้อนใส่จนวอนอูหมั่นไส้
นิ้วเรียวเคาะหน้าผากของมินกยูไปอีกทีเบา ๆ
"แหม ไม่ดูสิ่งที่มึงพูดเลยนะครับ ไอ้นี่..." วอนอูกลับไปกอดกระเป๋านอนเช่นเดิม
ในหัวคิดเรื่องเกี่ยวกับตัวเองและมินกยูจนคิ้วขมวด มินกยูเองก็นั่งมองเงียบ ๆ
จมอยู่ในความคิดตัวเองเช่นกัน
"แล้วมึงคิดว่าไง" เสียงทุ้มโพล่งถามขึ้นมา
ตาเรียวเหลือบมองสบกับตาคมที่มองมาอย่างจริงจัง
"เรื่องไร เป็นผัวเมียกะมึงอะนะ?"
"เออ นี่กูแอบคิดจริงจังนะเนี่ย" มินกยูเอนตัวลงนอนหนุนแขนอีกครั้ง
สายตาที่อยู่ในระดับเดียวกันทำให้เห็นแววตาของอีกคนชัดเจนขึ้น
ทั้งสองมองตากันโดยที่ในหัวมีความคิดวุ่นวายตีกันไปหมด
วอนอูพิจารณาแววตาของมินกยูอย่างละเอียดลออ
ตัวเขาเองก็อ่านแววตาใครไม่ค่อยออกสักเท่าไหร่หรอก
แต่ความจริงจังของมินกยูนั้นส่งมาค่อนข้างชัดเจนจนเขารู้สึกได้
ความจริงจังนั้นก็เจือไปด้วยอะไรบางอย่างที่เขาก็ไม่รู้เหมือนกัน
แต่มันทำให้เขาไว้ใจมินกยูมากทีเดียว
"เชื่อใจฉันนะ"
เสียงทุ้มที่เอ่ยอย่างหนักแน่นแว้บเข้ามาในหัว
วอนอูเม้มปากเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ในหลายวันที่ผ่านมา
"ขอโทษนะครับ..."
สัมผัสจุมพิตแผ่วบนริมฝีปากนั้นก็ยังคงเด่นชัดเช่นเดียวกับสัมผัสตามร่างกาย
วอนอูซุกหน้าลงกับกระเป๋าใบโต พยายามกำจัดภาพน่าอายออกไปจากศีรษะแต่ก็ยากเหลือเกิน
เขาคงไม่มีวันลืม...และคงไม่มีทางที่จะลืมมันแน่
ๆ
"แต่...กูยังเห็นมึงเป็นเพื่อนกูอยู่..." วอนอูตัดสินใจเอ่ยออกไป
คนตัวบางหันหน้ามามอง แอบสะดุ้งเล็กน้อยที่ใบหน้าคมนั้นอยู่ใกล้กว่าเดิม
"แต่มึงเขินกูอยู่นะ" ตาเรียวกะพริบตาปริบ ๆ กับคำพูดของคนตัวสูง
"เขินเชี่ยไ---"
"หูมึงแดง" มินกยูเขยิบใบหน้าเข้าไปใกล้มากขึ้น
แขนบางกอดกระชับกระเป๋าแน่น
"หน้ามึงด้วย" ใบหน้าหล่อยกยิ้ม
วอนอูหลับตาปี๋เมื่อรู้สึกถึงลมหายใจของอีกคนที่คลอใบหน้าของเขา
"โอ๊ยยยยย กูไปแล้ว!"
วอนอูตัดสินใจลุกขึ้นยืนแต่ก็ต้องเท้าแขนกับโต๊ะไว้เพราะอาการปวดที่แล่นปราดขึ้นมา
"ทำไมยังปวดอยู่วะ..."
พึมพำอย่างหงุดหงิดก่อนจะสะดุ้งเพราะมือหนาที่ยกขึ้นมาแตะเอว
"มึงลุกช้า ๆ ดิวะ" มินกยูลุกขึ้นประคองเอวบางให้ออกจากที่นั่ง
ก่อนจะเก็บรวบรวมจานเปล่าไปวางตรงที่เก็บโดยมีวอนอูสะพายกระเป๋าเดินตามมา
"ไม่เห็นต้องตามมานี่หว่า กูก็บอกอยู่ว่ากระเป๋ามันหนัก เอามานี่"
มือหนาแบออกพร้อมกับสายตาดุ วอนอูจึงส่งกระเป๋าให้อย่างเสียไม่ได้
"กูก็ผู้ชายมะ
ไม่ได้อ่อนแอเหมือนผู้หญิงที่ต้องให้มึงคอยถือกระเป๋าให้นะเว้ย"
ร่างบางจิ๊ปากเบา ๆ อย่างไม่สบอารมณ์
"แต่มึงเป็นเมียกู แล้วนี่ก็กระเป๋ากูถ้ามึงไม่ลืม"
มินกยูพยักเพยิดให้ร่างบางเดินนำไปก่อน
วอนอูถอนหายใจก่อนจะออกเดินโดยมีมินกยูที่คอยแตะเอวประคองให้ตามมาติด ๆ
"สรุปมึงจะเป็นผัวกูให้ได้เลยใช่มั้ย" วอนอูเอ่ยถามระหว่างทาง
แอบถอนหายใจตอนหันไปมองมินกยู
"ก็เป็นแล้วปะวะ โอ๊ย! อย่าชกแขนกู" มือหนายกลูบต้นแขนตัวเองยกใหญ่เมื่อหมัดที่ไม่เบานักปะทะเข้ามาเต็มแรง
"นี่กูจริงจัง" วอนอูหยุดเดินแล้วหันมาเผชิญหน้ากับร่างสูง
"เอออออออ กูก็บอกว่ากูจริงจังไง" มือหนายกขึ้นยีผมนุ่มของอีกคนเบา ๆ
รอยยิ้มบางที่ส่งให้วอนอูทำให้เจ้าตัวรู้สึกอบอุ่นแปลก ๆ
"งั้น...ดูแลกูดี ๆ " วอนอูชูนิ้วก้อยขึ้นมา มินกยูมองพลางหัวเราะเบา
ๆ แต่ก่อนที่อีกคนจะโวยวายมือหนาก็ยกมือตัวเองขึ้นมาเกี่ยวก้อยด้วย
มินกยูขยับมือให้นิ้วโป้งแตะชนกับปลายนิ้วโป้งของวอนอู
สัญลักษณ์มือที่พวกเขาทำด้วยกันตั้งแต่เป็นเพื่อน ตอนนี้มันได้ขยับไปอีกขั้นหนึ่งแล้ว...
"จัดให้ครับ คุณภรรยา" มินกยูฉีกยิ้มแล้วเปลี่ยนมากุมมือบางไว้
"ไม่ต้องมาเสือกสุภาพ ไอ้สัส" วอนอูกลอกตาใส่
มือบางจะสะบัดออกแต่มือหนาจับไว้แน่นแล้วดึงให้เดินต่อ
"ก็กูบอกว่ากูชอบสุภาพไง จะได้พระเอก ๆ มึงอะ อย่าขัดมู้ดกูดิ"
"ไม่ต้องมาพระเอกกะกู ไอ้ชั่ว"
"อย่าว่าสามีสิคร้าบ~" มินกยูแกล้งเบะปากใส่
"กวนตีนนะ มึงน่ะ"
มือข้างที่ว่างของวอนอูยกขึ้นแล้วดีดปากร่างสูงจนอีกคนร้องโอดโอย
เมื่อได้ทีวอนอูก็สะบัดมือออกแล้วรีบเดินเข้าห้องเรียน
มินกยูมองตามวอนอูไปก่อนจะยิ้มกับตัวเอง เขาเองก็ไม่เข้าใจตัวเองนักหรอกว่าทำไมจู่
ๆ ถึงคิดจริงจังกับจอนวอนอูขึ้นมา แต่เขาอยากเห็นหน้าวอนอูทุก ๆ วันแบบนี้ไปเรื่อย
ๆ เขารู้สึกว่าใบหน้านั้นน่ารักโดยเฉพาะเวลาที่เขินคำพูดของเขาแบบเมื่อกี๊
อยากจูบปากชมพู
ๆ นั่นชะมัด ไม่ได้จูบมาหลายวันแล้ว...