22 มีนาคม 2560

[SEVENTEEN] [SF] เล่นบอท EP1 (MINWON/MEANIE)

Title : เล่นบอท EP1 [Series : มินวอนขี้เล่น]

Pairing : Mingyu x Wonwoo

Rate : NC

Words : ~2600

By : AKEmi

Note : ไม่รู้ว่าตอนนี้จะมีใครอินบ้างมั้ยนะ แต่ถ้าใครเคยรู้สึกต่อกันผ่านทางตัวอักษรคงสะกิดใจตัวเองนิดหน่อย 555555 เดี๋ยวจะมีตอนสองต่อแน่นอนค่ะ แล้วก็คิดเรื่องที่จะเอาซีรี่ส์นี้ไปลงเด็กดีอยู่เหมือนกัน แต่ไม่รู้จะอ่านสะดวกกันมั้ยเพราะยังไงก็ต้องลิ้งค์กลับมาที่นี่อยู่ดี 5555 ยังไงเสนอแนะที่แท็กขี้เล่นกันได้นะคะ >__< //ที่จริงตอนนี้มีคนรีเควสมาแหละ หวังว่าจะถูกใจคนรีเควสนะ!

Tag : #มินวอนขี้เล่น#มินวอนเล่นบอท


















            เสียงแจ้งเตือนของมือถือเครื่องบางดังขึ้นในขณะที่เจ้าของมันกำลังพิมพ์รายงานอย่างขะมักเขม้น มือเรียวหยิบมันขึ้นมาดูและส่งยิ้มบางให้



          ‘@cgREN_95 ตั้งใจทำงานนะครับ สู้ๆ



            หลังจากชั่งใจครู่หนึ่งก็ตัดสินใจวางมันกลับไว้ที่เดิม ตอนนี้ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่ารายงานที่ต้องรีบพิมพ์ให้เสร็จอีกแล้ว ถึงแม้อีกฝั่งจะเป็นแฟนก็ตาม





          แต่ก็แค่แฟนในบอทล่ะนะ...









            บอทที่ใช้หน้าตาของศิลปินมาสร้างตัวตนขึ้น บางคนก็ทำตัวจนเหมือนศิลปิน บางคนก็ใช้คาแรกเตอร์แบบที่ตัวเองชอบมาสวมกับศิลปิน อืม... จะว่าไปมันก็เป็นโลกที่อิสระดีเหมือนกัน อิสระแม้กระทั่งความรัก...



            จอนวอนอูก็เป็นหนึ่งในบอทเหล่านั้น จากความชื่นชอบในตัวศิลปิน เขาจึงลองมาเล่นบอทบ้าง เจอคนที่ชอบศิลปินเดียวกันตั้งเยอะแยะ เหนื่อย ๆ ก็เข้าไปคุยเล่นกับคนอื่น ถ้าว่างหรืออยู่ใกล้กันก็นัดเจอบางคนเหมือนนัดไปกินข้าวกับเพื่อนธรรมดา ๆ คุยกันทั้งเรื่องศิลปิน ทั้งเรื่องตัวเอง บางคนก็คุยกันจนพัฒนาความสัมพันธ์กลายเป็นเพื่อนสนิท บางคนก็เป็นแฟน



            ในชีวิตจริงวอนอูไม่มีคนรักอะไรหรอก เขาค่อนข้างเป็นคนเก็บตัว เรียนเสร็จถ้าไม่ได้ไปกินข้าวกับกลุ่มเพื่อนสนิทเขาก็ตรงกลับบ้าน ไม่ได้มีกิจกรรมอะไรที่สนใจไปมากกว่าอ่านหนังสือ หรือบางครั้งเขาก็ออกมาเดินเล่นคนเดียวตามย่านที่คนพลุกพล่าน ถึงจะดูเหงา ๆ แต่มันก็เป็นไลฟ์สไตล์ที่เขาชอบ



            แต่ในบอทนั้น เขามีแฟน คงเพราะเขาเป็นบอทของเร็นวงนิวอีสต์ คนที่เป็นคู่ชิปเร็นกับคนอื่น ๆ ในวงเลยเข้าหาเขาเยอะ ไหนจะความร่าเริงน่ารักที่เขาตั้งใจให้มันเป็นแบบนั้นเพราะเขาชอบเร็นแบบที่เฟรนด์ลี่กับทุกคน มันเลยทำให้มีคนมาจีบอยู่หลายคนแต่คงเพราะเขาตอบแบบนิ่ง ๆ ใส่เลยล้มเลิกความตั้งใจไปเยอะ จนเหลือแค่คนเดียว คนที่เมนชั่นมาหาเขาเมื่อกี๊นั่นแหละ



          บอทเจอาร์ที่ชื่อซิน...



            ไม่รู้ว่าเพราะคาแรกเตอร์นิ่ง ๆ ดูเงียบขรึมรึเปล่าที่ทำให้วอนอูรู้สึกว่าเขาดูเป็นผู้ใหญ่และน่าคบหาด้วย หรืออาจจะเพราะชอบเจอาร์ที่คาแรกเตอร์แบบนี้เลยเลือกให้คู่กับเร็นในแบบที่เขาชอบ ถึงตัวจริงเขาจะเป็นผู้ชายก็เถอะ แต่เขาคิดว่าความสัมพันธ์แบบนี้ก็ดูน่ารักดี คนที่เงียบขรึมกับคนที่ร่าเริงสดใส...



          ‘@cgREN_95 อย่าทำงานจนลืมกินข้าวล่ะครับ ไวท์ ซินเป็นห่วงนะ



            ไม่รู้เพราะความเป็นห่วงเป็นใยจากความเป็นแฟนกันในบอทรึเปล่า นอกจากจะทำให้บอทเร็นที่ชื่อไวท์หวั่นไหวแล้ว มันยังทำให้ใจของวอนอูแอบสั่นเช่นกัน ชายหนุ่มร่างบางกัดปากตัวเองเบา ๆ





          ความรักในบอทมันก็แค่ตัวอักษร ความห่วงใยนั้นก็ด้วย...















          ไวท์ครับ



            ข้อความใน Direct Message ที่เด้งขึ้นมาในขณะที่วอนอูกำลังเลื่อนไทม์ไลน์ของทวิตไปเรื่อย ๆ ทำให้เขาแปลกใจ ปกติซินจะทัก DM มาแค่ตอนจะเข้านอน จู๋จี๋กันสักพักก่อนจะบอกฝันดีราตรีสวัสดิ์



          ไม่ใช่ตอนสามทุ่มแบบนี้นี่นา...



            ครับ? วอนอูได้แต่พิมพ์ตอบกลับไปสั้น ๆ เพราะนึกไม่ออกว่าอีกฝ่ายอยากจะคุยอะไร



            ‘เราก็...คบกันมานานแล้วนะครับ วอนอูเผลอเม้มปากกลั้นหายใจระหว่างรออีกฝ่ายพิมพ์มา



            ไวท์...พร้อมรึยังครับ เจ้าของใบหน้านิ่งขมวดคิ้ว เขาชอบความสัมพันธ์ของไวท์กับซินก็จริง แต่จะถึงขั้น...มีอะไรกันแบบนี้มันจะประหลาดเกินไปสำหรับเขารึเปล่านะ



          ยังไงเขาก็เป็นผู้ชายคนหนึ่ง...



            ไวท์ไม่แน่ใจอะครับ เขาตัดสินใจพิมพ์ตอบไปแบบครึ่ง ๆ กลาง ๆ ตอนนี้วอนอูคิดหนักกว่าตอนเลือกมหาลัยที่จะเข้าอีกมั้ง เขาไม่รู้ว่าซินจริงจังแค่ไหน หรือแค่อยากให้มันเป็นฟิคเรื่องหนึ่งของตัวเอง เจอาร์ที่เงียบขรึมกับเร็นที่สดใสร่าเริง คบกันแล้วก็มีอะไรกัน อะไรแบบนั้น...



          ไม่เป็นไรครับ ซินอยากให้ไวท์พร้อม ไม่อยากบังคับเราน่ะ เป็นเวลาที่นานมากในความคิดของวอนอู ประโยคที่อีกคนส่งมาทำให้เขารู้สึกกระอักกระอ่วน จะว่าเขาไม่พร้อมกับการมีอะไรกันด้วยตัวอักษรมันก็ไม่ใช่หรอก เขาไม่พร้อมกับความรู้สึกของตัวเองมากกว่า ถ้าเกิดอีกฝ่ายเป็นผู้หญิงมันจะไม่ยิ่งแปลกประหลาดเข้าไปใหญ่หรอ



          แต่ก็...รู้สึกไม่อยากให้รอไปมากกว่านี้เหมือนกัน...



            ที่จริง...ไวท์ไม่อยากให้ซินรอเท่าไหร่ แต่ไวท์ยัง... มันแปลก ๆ อะครับ ปากอิ่มเม้มแน่น ดวงตาจ้องจุดสามจุดที่ผลุบ ๆ โผล่ ๆ อยู่ตรงขอบกล่องแชทแทบไม่กะพริบ



          งั้น...ลองดูก่อนมั้ยครับ?



            ลอง? วอนอูมึนงงจนทำได้แค่พิมพ์ถามกลับไปสั้น ๆ



            ก็...ลองเริ่มดู ถ้าไวท์ไม่โอเคก็บอกให้ซินหยุดได้นะครับ ข้อความที่ตอบกลับอย่างตรงไปตรงมาทำเอาคนตัวบางหน้าเห่อร้อนขึ้นมา



          ลองดูก็ได้ครับ...





          ทำอะไรอยู่วะเนี่ย...





            หลังจากนั้น อีกฝ่ายก็เริ่มการกระทำที่ทำให้ใบหน้าแดงมากขึ้นเรื่อย ๆ ถึงจะเป็นแค่ตัวอักษรเหมือนกับการอ่านนิยายเรทในเว็บ แต่เพราะตัวอักษรเหล่านั้นมันส่งมาให้เขาและหมายถึงตัวเขา ไม่สิ หมายถึงบอทที่เป็นหนึ่งในตัวตนของเขาต่างหาก ถึงจะเป็นแค่ตัวอักษรก็ทำให้ใจเต้นและวูบไหวแปลก ๆ ได้ไม่ต่างกับการโดนแตะเนื้อต้องตัวจริง ๆ เท่าไหร่



          ซินรักไวท์นะครับ...



            วอนอูมองข้อความนั้นด้วยดวงตาที่เริ่มจะฉ่ำน้ำ การกระทำทั้งหมดจบลงด้วยดีพร้อมกับคำบอกรักที่ได้รับเป็นปกติอยู่ทุกคืน มือเรียวพิมพ์ตอบกลับด้วยประโยคแบบเดียวกันก่อนจะวางมือถือลงบนเตียง



          ไม่ไหว... มันมากเกินไป...



            ใบหน้าเห่อร้อนก้มลงกดกับหมอนใบนุ่มที่หยิบมากอดหลังจากวางมือถือ ความรู้สึกอึดอัดล้นอยู่ในอกและถูกส่งลงไปที่ช่วงล่าง ขาเรียวเบียดชิดกันจนเหมือนวอนอูอยากหลอมรวมกล้ามเนื้อทั้งหมดไว้ไม่ให้มีมัดใดมัดหนึ่งแตกแยกออกมาอย่างเช่นตอนนี้



          แค่ตัวอักษรแต่กลับทำให้ตัวสั่นและร้อนรุ่มได้ขนาดนี้...



            วอนอูไม่รู้ว่าความรู้สึกที่เอ่อล้นของตัวเองมันเต็มไปด้วยอะไรบ้าง แต่วอนอูรู้ว่า ยิ่งอีกฝ่ายกระทำถลำลึกมากเท่าไหร่ ความรู้สึกในอกของเขาก็ยิ่งเพิ่มพูนจนอึดอัด มันเหมือนเขาถูกกลืนกินเข้าไปจริง ๆ เหมือนอีกฝ่ายนั่งอยู่บนเตียงด้วยกัน แตะสัมผัสเขาไปทั่วทั้งตัว และ...



            มือเรียวเลื่อนลงไปตามลำตัว วอนอูปล่อยให้หมอนใบเดิมวางอยู่บนตัวราวกับมันเป็นสิ่งแทนใครสักคน นิ้วเรียวยาวคืบคลานผ่านขอบกางเกงของตนเข้าไป แตะเกี่ยวกับส่วนอ่อนไหวที่อึดอัดอยู่ในร่มผ้า ดวงตาชื้นหลับลงแน่นในขณะที่ตัดสินใจลากนิ้วช้า ๆ ปากที่เม้มแน่นเผยอออกส่งลมหายใจหอบเบา ๆ มืออีกข้างที่ว่างอยู่สอดเข้าใต้เสื้อยืดบาง แตะสัมผัสไปทั่วลำตัว



          แบบที่ซินทำให้ไวท์...



            “อะ...” เสียงน่าอายหลุดออกมาเมื่อเขาคิดถึงการแตะจูบที่หน้าอกพร้อมกับนิ้วมือที่บดขยี้ลงไป ลมหายใจเริ่มติดขัด อุณหภูมิในร่างกายเริ่มพุ่งสูงขึ้น แต่หมอนนิ่มยังคงทับอยู่บนตัวของวอนอูแม้จะรู้สึกร้อนจนเหงื่อเริ่มผุดพรายก็ตาม



            วอนอูตัดสินใจผละมือออกแม้จะรู้สึกอึดอัดจนทรมาน แต่เขาต้องถอดกางเกงออก ไม่อย่างนั้นความอึดอัดจะยิ่งทรมานเขามากขึ้น เมื่อมือเรียวดันขอบกางเกงลงไปกองอยู่ที่เข่าแล้ว ความหนาวเย็นของลมแอร์ก็ทำให้ตัวสั่นเทา ร่างบางคิดแว้บขึ้นมาว่า ตื่นเช้ามาเขาอาจจะไม่สบายก็เป็นได้ เพราะอุณหภูมิของห้องนอนนี้กับอุณหภูมิของร่างกายเจ้าของห้องนอนมันช่างต่างกันเหลือเกิน



            มือข้างหนึ่งแตะกลับไปที่กลางลำตัวอีกครั้ง มืออีกข้างกำจิกหมอนนุ่มแน่น ใบหน้าติดหวานซุกลงกับหมอนใบเดิม มันเหมือนเขากำลังกอดอีกคนอยู่ระหว่างที่กำลังรูดรั้งส่วนอ่อนไหวสั่นเทา เสียงหอบปนครางดังลอดออกมาจากใยฝ้ายหนาแน่น ฟันขาวจึงงับปิดปากอิ่มของตน



          อย่ากัดปากสิครับ...



            ราวกับมีเสียงทุ้มกระซิบอยู่ข้างหู วอนอูสะดุ้งเฮือกพร้อมกับปล่อยให้ริมฝีปากของตนเป็นอิสระ กระนั้นมือเรียวยังคงไม่หยุดตามความตกใจราวกับขับเคลื่อนด้วยแรงอารมณ์แทนที่สมอง ทำให้เสียงแหบหวานดังลอดออกมาจากลำคอ



            “อะ... อ๊า...” ดวงตาฉ่ำน้ำเหม่อมองพร้อมกับคิ้วที่ขมวดเข้าหากัน ที่จริงเขาก็อยู่ตัวคนเดียวภายในห้อง จะทำอะไรก็ได้ แต่แค่เสียงที่หลอนขึ้นมาในหัวสั่ง เขากลับปฏิบัติตามราวกับอีกคนนั่งอยู่ตรงหน้าและกำลังใช้สายตาดุจ้องมองเขา



          คนดี... ไม่ต้องกลัวนะครับ



            ยิ่งได้ยิน ใบหน้ายิ่งเห่อร้อน เสียงนั้นที่ไม่เคยได้ยินจากที่ไหนกลับดังแผ่วอยู่ข้างหู ทั้งที่อ่านมันเป็นตัวอักษรแท้ ๆ วอนอูเริ่มรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นบ้ามากขึ้นเมื่อปล่อยมือที่กอดหมอนใบนุ่มและเลื่อนลงไปทางสะโพกด้านหลัง แตะลงบนเนื้อแน่นและค่อย ๆ ไต่ให้เข้าใกล้ช่องทางร้อน



          อย่าเกร็งนะ...



            “อึก...” ปลายนิ้วเรียวค่อย ๆ กดลงและดุนดันเข้าหาตัวเองทีละนิด มืออีกข้างที่ปรนเปรอตัวเองอยู่ถึงกับชะงักงัน เขาพอรู้ว่าครั้งแรกของใคร ๆ มันก็ต้องเจ็บกันทั้งนั้น แต่ไม่นึกว่าแค่ปลายนิ้วของตนจะทำให้อารมณ์ร้อนรุ่มถูกกำจัดออกอย่างง่ายดาย ความเจ็บปวดที่มาแทนที่ทำให้น้ำตารื้นขึ้นจนร่างบางต้องหอบหายใจหนักหน่วง



            “ทำยังไง... ฮึก...” ปากอิ่มพึมพำถามคำถามที่แม้แต่ตนเองก็ไม่รู้จะตอบอย่างไรขึ้นมาแผ่วเบา ในสมองพยายามนึกถึงตัวอักษรที่เพิ่งผ่านตาไปไม่กี่นาทีที่แล้ว แต่ยิ่งนึกยิ่งทำให้ใบหน้าร้อนจนแทบระเบิด



          วอนอูจำได้แค่ตอนที่อีกฝ่ายแทรกตัวเข้ามา...



            มือที่ผละออกจากกายสั่นระริกเอื้อมคว้ามือถือ นิ้วสั่นเทาทำให้ปลดล็อกหน้าจออย่างยากลำบาก กว่าจะกดเข้าไปในส่วนของแชทได้ก็ทำเอาเกือบพลาดไปหลายครั้ง ยิ่งเขาเลื่อนขึ้น ฉากอย่างว่าที่เป็นตัวอักษรยิ่งทำให้ช่องทางด้านล่างตอดรัดจนเขาต้องกัดปากข่มเกร็งอารมณ์ไว้ จนกระทั่งเจอส่วนที่ต้องการแล้ว วอนอูจึงรีบรวบรวมสติที่เหลืออยู่ไม่มากเพื่ออ่านทุกตัวอักษร



          ใครมันจะออรัลให้ตัวเองได้ล่ะ...



            มือเรียวแทบจะโยนมือถือทิ้งลงบนเตียงอีกครั้ง สูดหายใจเข้าไปลึกก่อนจะตัดสินใจเลื่อนมือไปแตะส่วนกลางลำตัวแล้วขยับรูดรั้งมันอีกครั้ง น้ำหนักมือรีบร้อนลงอย่างหนักหน่วงเพื่อทำให้อารมณ์พุ่งขึ้นตามที่ต้องการ ฟันขาวกัดปากกลั้นเสียงครางที่จ้องจะพุ่งออกมาจากลำคอทุกจังหวะการขยับ มืออีกข้างที่ยังแตะอยู่กับช่องทางร้อนเริ่มขยับนิ้วทีละน้อย ความวาบหวามที่วนอยู่ทั่วท้องพอให้ความเกร็งที่ช่วงล่างผ่อนคลายลงได้บ้าง ทั้งสองมือเริ่มประสานจังหวะเข้าด้วยกันและวอนอูเริ่มจะกลั้นเสียงไว้แทบไม่ไหว



            “อ๊า...” แล้วเสียงแหบหวานก็หลุดรอดออกมาจากลำคอจนได้ วอนอูพยายามซุกหน้าลงกับหมอนที่อยู่บนตัว แต่เพราะไม่มีมือที่คอยกำจิกไว้เหมือนเมื่อครู่หมอนใบนั้นจึงค่อย ๆ เลื่อนลงจนกองอยู่ตรงกลางระหว่างขาขาว ร่างบางทำอะไรไม่ได้นอกจากดิ้นเร่าและครวญครางจากสัมผัสที่สร้างขึ้นเอง น้ำตารื้นจนเกือบไหลจากความทรมาน



          วอนอูรู้สึกว่ามันไม่พอ...



            “ไม่ถนัดเลยว่ะ...” วอนอูพึมพำก่อนจะตัดสินใจผละมือทั้งสองข้างออกแล้วเท้าลงกับพื้นเตียง ถ่ายน้ำหนักยกตัวเองขึ้นมานั่งคุกเข่าอยู่กลางเตียงสีฟ้าอ่อนจาง หมอนใบโตที่เคยอยู่บนตัวกลับมาอยู่เบื้องล่างและรองรับน้ำหนักแสนเบาไว้



            ใบหน้าติดหวานเชิดขึ้นจนเสียงลอดออกจากลำคอได้โดยง่าย เมื่อมือทั้งสองข้างกลับมาแตะอยู่ตรงที่เดิมสะโพกบางก็ขยับเป็นจังหวะตาม นิ้วเรียวแทรกสอดเข้าไปลึกมากขึ้นพร้อมกับนิ้วอีกข้างที่รูดไล้อย่างหนักหน่วง เสียงหอบหายใจดังแทรกเสียงแหบหวานมากขึ้นจนคล้ายกับท่วงทำนองเพลงรัก วอนอูขยับตัวจนเตียงที่รองรับน้ำหนักอยู่เริ่มสั่นไหว ตาเรียวเหลือบมองปลายเตียงด้วยสายตาตื่นตระหนกแต่ตัวเขาก็ไม่ได้ผ่อนแรงลงแม้แต่น้อย ความร้อนและอารมณ์ที่ผสมปนเปกันพุ่งสูงจนสติเริ่มเลือนหาย



            “อ๊ะ... ซ...ซิน...” เสียงแหบหวานเผลอพึมพำชื่ออีกคนออกมาโดยไม่รู้ตัว วอนอูเร่งจังหวะมือให้เร็วและหนักหน่วงขึ้น ดวงตาเรียวหลับลงและเอาแต่นึกถึงตัวอักษรที่เต็มไปด้วยอารมณ์เหล่านั้น เสียงของอีกฝ่ายที่ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่จริงดังอยู่ข้างหูราวกับกำลังกระซิบแผ่วเบาอยู่บนเตียงด้วยกัน เนื้อตัวร้อนรุ่มราวกับอีกคนกำลังปลุกปั่นอารมณ์ด้วยสัมผัสร้อน



          ‘พร้อมกันนะครับ...



            “ซ...ซิน! อ๊า!” ตัวบางกระตุกเฮือกพร้อมกับปล่อยอารมณ์ให้ออกมาเป็นรอยเปรอะเปื้อนบนหมอนใบนุ่มที่ตอนนี้ยับยู่ยี่ วอนอูหอบหายใจหนักหน่วงและทิ้งตัวลงนอนอย่างเหนื่อยอ่อน ตาเรียวมองเหม่อไปที่ผนังสีขาว ความคิดในหัวตีกันจนสับสน







          ทำไมเป็นได้ขนาดนี้...








          แค่ตัวอักษรแท้ ๆ...









            วอนอูดันตัวขึ้น ดึงกางเกงขึ้นมาให้อยู่ที่เดิมจนเรียบร้อย เดินไปหยิบกระดาษทิชชู่และเปิดตู้เพื่อหยิบปลอกหมอนอันใหม่แล้วจึงเดินกลับมาเพื่อเช็ดคราบเปื้อนและเปลี่ยนปลอกหมอนให้เรียบร้อย ตาเรียวเหลือบมองมือถือที่วางอยู่บนเตียงอย่างชั่งใจ ตัดสินใจหยิบมันขึ้นมาดูเวลาแล้วกดส่งข้อความไป



          ‘@JR95_O6O8x 01.01 ความคิดถึงของผมมีแค่คุณนะ




            “อาบน้ำแล้วกัน...” ร่างบางถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป