Pairing : Mingyu x Wonwoo
Rate : NC
Words : ~2600
By : AKEmi
Note : ไม่รู้ว่าตอนนี้จะมีใครอินบ้างมั้ยนะ แต่ถ้าใครเคยรู้สึกต่อกันผ่านทางตัวอักษรคงสะกิดใจตัวเองนิดหน่อย 555555 เดี๋ยวจะมีตอนสองต่อแน่นอนค่ะ แล้วก็คิดเรื่องที่จะเอาซีรี่ส์นี้ไปลงเด็กดีอยู่เหมือนกัน แต่ไม่รู้จะอ่านสะดวกกันมั้ยเพราะยังไงก็ต้องลิ้งค์กลับมาที่นี่อยู่ดี 5555 ยังไงเสนอแนะที่แท็กขี้เล่นกันได้นะคะ >__< //ที่จริงตอนนี้มีคนรีเควสมาแหละ หวังว่าจะถูกใจคนรีเควสนะ!
Tag : #มินวอนขี้เล่น, #มินวอนเล่นบอท
เสียงแจ้งเตือนของมือถือเครื่องบางดังขึ้นในขณะที่เจ้าของมันกำลังพิมพ์รายงานอย่างขะมักเขม้น
มือเรียวหยิบมันขึ้นมาดูและส่งยิ้มบางให้
‘@cgREN_95 ตั้งใจทำงานนะครับ สู้ๆ’
หลังจากชั่งใจครู่หนึ่งก็ตัดสินใจวางมันกลับไว้ที่เดิม
ตอนนี้ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่ารายงานที่ต้องรีบพิมพ์ให้เสร็จอีกแล้ว
ถึงแม้อีกฝั่งจะเป็นแฟนก็ตาม
แต่ก็แค่แฟนในบอทล่ะนะ...
บอทที่ใช้หน้าตาของศิลปินมาสร้างตัวตนขึ้น
บางคนก็ทำตัวจนเหมือนศิลปิน บางคนก็ใช้คาแรกเตอร์แบบที่ตัวเองชอบมาสวมกับศิลปิน
อืม... จะว่าไปมันก็เป็นโลกที่อิสระดีเหมือนกัน อิสระแม้กระทั่งความรัก...
จอนวอนอูก็เป็นหนึ่งในบอทเหล่านั้น
จากความชื่นชอบในตัวศิลปิน เขาจึงลองมาเล่นบอทบ้าง
เจอคนที่ชอบศิลปินเดียวกันตั้งเยอะแยะ เหนื่อย ๆ ก็เข้าไปคุยเล่นกับคนอื่น
ถ้าว่างหรืออยู่ใกล้กันก็นัดเจอบางคนเหมือนนัดไปกินข้าวกับเพื่อนธรรมดา ๆ
คุยกันทั้งเรื่องศิลปิน ทั้งเรื่องตัวเอง
บางคนก็คุยกันจนพัฒนาความสัมพันธ์กลายเป็นเพื่อนสนิท บางคนก็เป็นแฟน
ในชีวิตจริงวอนอูไม่มีคนรักอะไรหรอก
เขาค่อนข้างเป็นคนเก็บตัว
เรียนเสร็จถ้าไม่ได้ไปกินข้าวกับกลุ่มเพื่อนสนิทเขาก็ตรงกลับบ้าน ไม่ได้มีกิจกรรมอะไรที่สนใจไปมากกว่าอ่านหนังสือ
หรือบางครั้งเขาก็ออกมาเดินเล่นคนเดียวตามย่านที่คนพลุกพล่าน ถึงจะดูเหงา ๆ
แต่มันก็เป็นไลฟ์สไตล์ที่เขาชอบ
แต่ในบอทนั้น
เขามีแฟน คงเพราะเขาเป็นบอทของเร็นวงนิวอีสต์ คนที่เป็นคู่ชิปเร็นกับคนอื่น ๆ
ในวงเลยเข้าหาเขาเยอะ
ไหนจะความร่าเริงน่ารักที่เขาตั้งใจให้มันเป็นแบบนั้นเพราะเขาชอบเร็นแบบที่เฟรนด์ลี่กับทุกคน
มันเลยทำให้มีคนมาจีบอยู่หลายคนแต่คงเพราะเขาตอบแบบนิ่ง ๆ
ใส่เลยล้มเลิกความตั้งใจไปเยอะ จนเหลือแค่คนเดียว
คนที่เมนชั่นมาหาเขาเมื่อกี๊นั่นแหละ
บอทเจอาร์ที่ชื่อซิน...
ไม่รู้ว่าเพราะคาแรกเตอร์นิ่ง
ๆ ดูเงียบขรึมรึเปล่าที่ทำให้วอนอูรู้สึกว่าเขาดูเป็นผู้ใหญ่และน่าคบหาด้วย
หรืออาจจะเพราะชอบเจอาร์ที่คาแรกเตอร์แบบนี้เลยเลือกให้คู่กับเร็นในแบบที่เขาชอบ
ถึงตัวจริงเขาจะเป็นผู้ชายก็เถอะ แต่เขาคิดว่าความสัมพันธ์แบบนี้ก็ดูน่ารักดี คนที่เงียบขรึมกับคนที่ร่าเริงสดใส...
‘@cgREN_95
อย่าทำงานจนลืมกินข้าวล่ะครับ ไวท์ ซินเป็นห่วงนะ’
ไม่รู้เพราะความเป็นห่วงเป็นใยจากความเป็นแฟนกันในบอทรึเปล่า
นอกจากจะทำให้บอทเร็นที่ชื่อไวท์หวั่นไหวแล้ว มันยังทำให้ใจของวอนอูแอบสั่นเช่นกัน
ชายหนุ่มร่างบางกัดปากตัวเองเบา ๆ
ความรักในบอทมันก็แค่ตัวอักษร
ความห่วงใยนั้นก็ด้วย...
‘ไวท์ครับ’
ข้อความใน
Direct
Message
ที่เด้งขึ้นมาในขณะที่วอนอูกำลังเลื่อนไทม์ไลน์ของทวิตไปเรื่อย ๆ ทำให้เขาแปลกใจ
ปกติซินจะทัก DM มาแค่ตอนจะเข้านอน
จู๋จี๋กันสักพักก่อนจะบอกฝันดีราตรีสวัสดิ์
ไม่ใช่ตอนสามทุ่มแบบนี้นี่นา...
‘เราก็...คบกันมานานแล้วนะครับ’ วอนอูเผลอเม้มปากกลั้นหายใจระหว่างรออีกฝ่ายพิมพ์มา
‘ไวท์...พร้อมรึยังครับ’ เจ้าของใบหน้านิ่งขมวดคิ้ว
เขาชอบความสัมพันธ์ของไวท์กับซินก็จริง
แต่จะถึงขั้น...มีอะไรกันแบบนี้มันจะประหลาดเกินไปสำหรับเขารึเปล่านะ
ยังไงเขาก็เป็นผู้ชายคนหนึ่ง...
‘ไวท์ไม่แน่ใจอะครับ’ เขาตัดสินใจพิมพ์ตอบไปแบบครึ่ง
ๆ กลาง ๆ ตอนนี้วอนอูคิดหนักกว่าตอนเลือกมหาลัยที่จะเข้าอีกมั้ง
เขาไม่รู้ว่าซินจริงจังแค่ไหน หรือแค่อยากให้มันเป็นฟิคเรื่องหนึ่งของตัวเอง
เจอาร์ที่เงียบขรึมกับเร็นที่สดใสร่าเริง คบกันแล้วก็มีอะไรกัน อะไรแบบนั้น...
‘ไม่เป็นไรครับ ซินอยากให้ไวท์พร้อม ไม่อยากบังคับเราน่ะ’ เป็นเวลาที่นานมากในความคิดของวอนอู
ประโยคที่อีกคนส่งมาทำให้เขารู้สึกกระอักกระอ่วน จะว่าเขาไม่พร้อมกับการมีอะไรกันด้วยตัวอักษรมันก็ไม่ใช่หรอก
เขาไม่พร้อมกับความรู้สึกของตัวเองมากกว่า ถ้าเกิดอีกฝ่ายเป็นผู้หญิงมันจะไม่ยิ่งแปลกประหลาดเข้าไปใหญ่หรอ
แต่ก็...รู้สึกไม่อยากให้รอไปมากกว่านี้เหมือนกัน...
‘ที่จริง...ไวท์ไม่อยากให้ซินรอเท่าไหร่ แต่ไวท์ยัง... มันแปลก ๆ อะครับ’
ปากอิ่มเม้มแน่น ดวงตาจ้องจุดสามจุดที่ผลุบ ๆ โผล่ ๆ
อยู่ตรงขอบกล่องแชทแทบไม่กะพริบ
‘งั้น...ลองดูก่อนมั้ยครับ?’
‘ลอง?’
วอนอูมึนงงจนทำได้แค่พิมพ์ถามกลับไปสั้น ๆ
‘ก็...ลองเริ่มดู
ถ้าไวท์ไม่โอเคก็บอกให้ซินหยุดได้นะครับ’ ข้อความที่ตอบกลับอย่างตรงไปตรงมาทำเอาคนตัวบางหน้าเห่อร้อนขึ้นมา
‘ลองดูก็ได้ครับ...’
ทำอะไรอยู่วะเนี่ย...
หลังจากนั้น
อีกฝ่ายก็เริ่มการกระทำที่ทำให้ใบหน้าแดงมากขึ้นเรื่อย ๆ
ถึงจะเป็นแค่ตัวอักษรเหมือนกับการอ่านนิยายเรทในเว็บ
แต่เพราะตัวอักษรเหล่านั้นมันส่งมาให้เขาและหมายถึงตัวเขา ไม่สิ
หมายถึงบอทที่เป็นหนึ่งในตัวตนของเขาต่างหาก
ถึงจะเป็นแค่ตัวอักษรก็ทำให้ใจเต้นและวูบไหวแปลก ๆ
ได้ไม่ต่างกับการโดนแตะเนื้อต้องตัวจริง ๆ เท่าไหร่
‘ซินรักไวท์นะครับ...’
วอนอูมองข้อความนั้นด้วยดวงตาที่เริ่มจะฉ่ำน้ำ
การกระทำทั้งหมดจบลงด้วยดีพร้อมกับคำบอกรักที่ได้รับเป็นปกติอยู่ทุกคืน
มือเรียวพิมพ์ตอบกลับด้วยประโยคแบบเดียวกันก่อนจะวางมือถือลงบนเตียง
ไม่ไหว...
มันมากเกินไป...
ใบหน้าเห่อร้อนก้มลงกดกับหมอนใบนุ่มที่หยิบมากอดหลังจากวางมือถือ
ความรู้สึกอึดอัดล้นอยู่ในอกและถูกส่งลงไปที่ช่วงล่าง
ขาเรียวเบียดชิดกันจนเหมือนวอนอูอยากหลอมรวมกล้ามเนื้อทั้งหมดไว้ไม่ให้มีมัดใดมัดหนึ่งแตกแยกออกมาอย่างเช่นตอนนี้
แค่ตัวอักษรแต่กลับทำให้ตัวสั่นและร้อนรุ่มได้ขนาดนี้...
วอนอูไม่รู้ว่าความรู้สึกที่เอ่อล้นของตัวเองมันเต็มไปด้วยอะไรบ้าง
แต่วอนอูรู้ว่า ยิ่งอีกฝ่ายกระทำถลำลึกมากเท่าไหร่
ความรู้สึกในอกของเขาก็ยิ่งเพิ่มพูนจนอึดอัด มันเหมือนเขาถูกกลืนกินเข้าไปจริง ๆ เหมือนอีกฝ่ายนั่งอยู่บนเตียงด้วยกัน
แตะสัมผัสเขาไปทั่วทั้งตัว และ...
มือเรียวเลื่อนลงไปตามลำตัว
วอนอูปล่อยให้หมอนใบเดิมวางอยู่บนตัวราวกับมันเป็นสิ่งแทนใครสักคน
นิ้วเรียวยาวคืบคลานผ่านขอบกางเกงของตนเข้าไป
แตะเกี่ยวกับส่วนอ่อนไหวที่อึดอัดอยู่ในร่มผ้า ดวงตาชื้นหลับลงแน่นในขณะที่ตัดสินใจลากนิ้วช้า
ๆ ปากที่เม้มแน่นเผยอออกส่งลมหายใจหอบเบา ๆ
มืออีกข้างที่ว่างอยู่สอดเข้าใต้เสื้อยืดบาง แตะสัมผัสไปทั่วลำตัว
แบบที่ซินทำให้ไวท์...
“อะ...”
เสียงน่าอายหลุดออกมาเมื่อเขาคิดถึงการแตะจูบที่หน้าอกพร้อมกับนิ้วมือที่บดขยี้ลงไป
ลมหายใจเริ่มติดขัด อุณหภูมิในร่างกายเริ่มพุ่งสูงขึ้น แต่หมอนนิ่มยังคงทับอยู่บนตัวของวอนอูแม้จะรู้สึกร้อนจนเหงื่อเริ่มผุดพรายก็ตาม
วอนอูตัดสินใจผละมือออกแม้จะรู้สึกอึดอัดจนทรมาน
แต่เขาต้องถอดกางเกงออก ไม่อย่างนั้นความอึดอัดจะยิ่งทรมานเขามากขึ้น เมื่อมือเรียวดันขอบกางเกงลงไปกองอยู่ที่เข่าแล้ว
ความหนาวเย็นของลมแอร์ก็ทำให้ตัวสั่นเทา ร่างบางคิดแว้บขึ้นมาว่า
ตื่นเช้ามาเขาอาจจะไม่สบายก็เป็นได้
เพราะอุณหภูมิของห้องนอนนี้กับอุณหภูมิของร่างกายเจ้าของห้องนอนมันช่างต่างกันเหลือเกิน
มือข้างหนึ่งแตะกลับไปที่กลางลำตัวอีกครั้ง
มืออีกข้างกำจิกหมอนนุ่มแน่น ใบหน้าติดหวานซุกลงกับหมอนใบเดิม
มันเหมือนเขากำลังกอดอีกคนอยู่ระหว่างที่กำลังรูดรั้งส่วนอ่อนไหวสั่นเทา
เสียงหอบปนครางดังลอดออกมาจากใยฝ้ายหนาแน่น ฟันขาวจึงงับปิดปากอิ่มของตน
‘อย่ากัดปากสิครับ...’
ราวกับมีเสียงทุ้มกระซิบอยู่ข้างหู
วอนอูสะดุ้งเฮือกพร้อมกับปล่อยให้ริมฝีปากของตนเป็นอิสระ
กระนั้นมือเรียวยังคงไม่หยุดตามความตกใจราวกับขับเคลื่อนด้วยแรงอารมณ์แทนที่สมอง
ทำให้เสียงแหบหวานดังลอดออกมาจากลำคอ
“อะ...
อ๊า...” ดวงตาฉ่ำน้ำเหม่อมองพร้อมกับคิ้วที่ขมวดเข้าหากัน
ที่จริงเขาก็อยู่ตัวคนเดียวภายในห้อง จะทำอะไรก็ได้
แต่แค่เสียงที่หลอนขึ้นมาในหัวสั่ง เขากลับปฏิบัติตามราวกับอีกคนนั่งอยู่ตรงหน้าและกำลังใช้สายตาดุจ้องมองเขา
‘คนดี... ไม่ต้องกลัวนะครับ’
ยิ่งได้ยิน
ใบหน้ายิ่งเห่อร้อน เสียงนั้นที่ไม่เคยได้ยินจากที่ไหนกลับดังแผ่วอยู่ข้างหู
ทั้งที่อ่านมันเป็นตัวอักษรแท้ ๆ
วอนอูเริ่มรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นบ้ามากขึ้นเมื่อปล่อยมือที่กอดหมอนใบนุ่มและเลื่อนลงไปทางสะโพกด้านหลัง
แตะลงบนเนื้อแน่นและค่อย ๆ ไต่ให้เข้าใกล้ช่องทางร้อน
‘อย่าเกร็งนะ...’
“อึก...” ปลายนิ้วเรียวค่อย ๆ
กดลงและดุนดันเข้าหาตัวเองทีละนิด มืออีกข้างที่ปรนเปรอตัวเองอยู่ถึงกับชะงักงัน
เขาพอรู้ว่าครั้งแรกของใคร ๆ มันก็ต้องเจ็บกันทั้งนั้น
แต่ไม่นึกว่าแค่ปลายนิ้วของตนจะทำให้อารมณ์ร้อนรุ่มถูกกำจัดออกอย่างง่ายดาย
ความเจ็บปวดที่มาแทนที่ทำให้น้ำตารื้นขึ้นจนร่างบางต้องหอบหายใจหนักหน่วง
“ทำยังไง... ฮึก...”
ปากอิ่มพึมพำถามคำถามที่แม้แต่ตนเองก็ไม่รู้จะตอบอย่างไรขึ้นมาแผ่วเบา
ในสมองพยายามนึกถึงตัวอักษรที่เพิ่งผ่านตาไปไม่กี่นาทีที่แล้ว
แต่ยิ่งนึกยิ่งทำให้ใบหน้าร้อนจนแทบระเบิด
วอนอูจำได้แค่ตอนที่อีกฝ่ายแทรกตัวเข้ามา...
มือที่ผละออกจากกายสั่นระริกเอื้อมคว้ามือถือ
นิ้วสั่นเทาทำให้ปลดล็อกหน้าจออย่างยากลำบาก
กว่าจะกดเข้าไปในส่วนของแชทได้ก็ทำเอาเกือบพลาดไปหลายครั้ง ยิ่งเขาเลื่อนขึ้น
ฉากอย่างว่าที่เป็นตัวอักษรยิ่งทำให้ช่องทางด้านล่างตอดรัดจนเขาต้องกัดปากข่มเกร็งอารมณ์ไว้
จนกระทั่งเจอส่วนที่ต้องการแล้ว
วอนอูจึงรีบรวบรวมสติที่เหลืออยู่ไม่มากเพื่ออ่านทุกตัวอักษร
ใครมันจะออรัลให้ตัวเองได้ล่ะ...
มือเรียวแทบจะโยนมือถือทิ้งลงบนเตียงอีกครั้ง
สูดหายใจเข้าไปลึกก่อนจะตัดสินใจเลื่อนมือไปแตะส่วนกลางลำตัวแล้วขยับรูดรั้งมันอีกครั้ง
น้ำหนักมือรีบร้อนลงอย่างหนักหน่วงเพื่อทำให้อารมณ์พุ่งขึ้นตามที่ต้องการ
ฟันขาวกัดปากกลั้นเสียงครางที่จ้องจะพุ่งออกมาจากลำคอทุกจังหวะการขยับ
มืออีกข้างที่ยังแตะอยู่กับช่องทางร้อนเริ่มขยับนิ้วทีละน้อย
ความวาบหวามที่วนอยู่ทั่วท้องพอให้ความเกร็งที่ช่วงล่างผ่อนคลายลงได้บ้าง ทั้งสองมือเริ่มประสานจังหวะเข้าด้วยกันและวอนอูเริ่มจะกลั้นเสียงไว้แทบไม่ไหว
“อ๊า...”
แล้วเสียงแหบหวานก็หลุดรอดออกมาจากลำคอจนได้ วอนอูพยายามซุกหน้าลงกับหมอนที่อยู่บนตัว
แต่เพราะไม่มีมือที่คอยกำจิกไว้เหมือนเมื่อครู่หมอนใบนั้นจึงค่อย ๆ
เลื่อนลงจนกองอยู่ตรงกลางระหว่างขาขาว
ร่างบางทำอะไรไม่ได้นอกจากดิ้นเร่าและครวญครางจากสัมผัสที่สร้างขึ้นเอง
น้ำตารื้นจนเกือบไหลจากความทรมาน
วอนอูรู้สึกว่ามันไม่พอ...
“ไม่ถนัดเลยว่ะ...” วอนอูพึมพำก่อนจะตัดสินใจผละมือทั้งสองข้างออกแล้วเท้าลงกับพื้นเตียง
ถ่ายน้ำหนักยกตัวเองขึ้นมานั่งคุกเข่าอยู่กลางเตียงสีฟ้าอ่อนจาง
หมอนใบโตที่เคยอยู่บนตัวกลับมาอยู่เบื้องล่างและรองรับน้ำหนักแสนเบาไว้
ใบหน้าติดหวานเชิดขึ้นจนเสียงลอดออกจากลำคอได้โดยง่าย
เมื่อมือทั้งสองข้างกลับมาแตะอยู่ตรงที่เดิมสะโพกบางก็ขยับเป็นจังหวะตาม
นิ้วเรียวแทรกสอดเข้าไปลึกมากขึ้นพร้อมกับนิ้วอีกข้างที่รูดไล้อย่างหนักหน่วง
เสียงหอบหายใจดังแทรกเสียงแหบหวานมากขึ้นจนคล้ายกับท่วงทำนองเพลงรัก
วอนอูขยับตัวจนเตียงที่รองรับน้ำหนักอยู่เริ่มสั่นไหว
ตาเรียวเหลือบมองปลายเตียงด้วยสายตาตื่นตระหนกแต่ตัวเขาก็ไม่ได้ผ่อนแรงลงแม้แต่น้อย
ความร้อนและอารมณ์ที่ผสมปนเปกันพุ่งสูงจนสติเริ่มเลือนหาย
“อ๊ะ... ซ...ซิน...” เสียงแหบหวานเผลอพึมพำชื่ออีกคนออกมาโดยไม่รู้ตัว
วอนอูเร่งจังหวะมือให้เร็วและหนักหน่วงขึ้น
ดวงตาเรียวหลับลงและเอาแต่นึกถึงตัวอักษรที่เต็มไปด้วยอารมณ์เหล่านั้น
เสียงของอีกฝ่ายที่ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่จริงดังอยู่ข้างหูราวกับกำลังกระซิบแผ่วเบาอยู่บนเตียงด้วยกัน
เนื้อตัวร้อนรุ่มราวกับอีกคนกำลังปลุกปั่นอารมณ์ด้วยสัมผัสร้อน
‘พร้อมกันนะครับ...’
“ซ...ซิน! อ๊า!” ตัวบางกระตุกเฮือกพร้อมกับปล่อยอารมณ์ให้ออกมาเป็นรอยเปรอะเปื้อนบนหมอนใบนุ่มที่ตอนนี้ยับยู่ยี่
วอนอูหอบหายใจหนักหน่วงและทิ้งตัวลงนอนอย่างเหนื่อยอ่อน ตาเรียวมองเหม่อไปที่ผนังสีขาว
ความคิดในหัวตีกันจนสับสน
ทำไมเป็นได้ขนาดนี้...
แค่ตัวอักษรแท้
ๆ...
วอนอูดันตัวขึ้น
ดึงกางเกงขึ้นมาให้อยู่ที่เดิมจนเรียบร้อย
เดินไปหยิบกระดาษทิชชู่และเปิดตู้เพื่อหยิบปลอกหมอนอันใหม่แล้วจึงเดินกลับมาเพื่อเช็ดคราบเปื้อนและเปลี่ยนปลอกหมอนให้เรียบร้อย
ตาเรียวเหลือบมองมือถือที่วางอยู่บนเตียงอย่างชั่งใจ ตัดสินใจหยิบมันขึ้นมาดูเวลาแล้วกดส่งข้อความไป
‘@JR95_O6O8x 01.01 ความคิดถึงของผมมีแค่คุณนะ’
“อาบน้ำแล้วกัน...”
ร่างบางถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป