Title : เล่นบอท EP2 (EP1) [Series : มินวอนขี้เล่น]
Pairing : Mingyu x Wonwoo
Rate : NC
Words : ~2600
By : AKEmi
Note : มาต่อตอนที่สองแล้วนะคะ ตอนนี้ก็สั้นๆอีกเช่นเดิม แฮ่... ขออนุญาตโฆษณา เราเปิดบทความของเซเว่นทีนในเด็กดีแล้วนะคะ จะลงเป็น OS/SF ธรรมดา แล้วก็มีคู่อื่นด้วย (แต่ตอนนี้ยังมีแค่มินวอน 55555) ตามได้ที่แท็กนี้เลยนะคะ >> #เซบทีนของอาเคมิ แล้วก็เดี๋ยวจะมีเรื่องยาวลงในเด็กดีเช่นกัน คิดว่าคงเปิดเรื่องไม่เกินเดือนเมษา ยังไงฝากติดตามกันด้วยนะคะ >_<
Tag : #มินวอนขี้เล่น, #มินวอนเล่นบอท
หลังจากวันนั้น
ความสัมพันธ์ของซินกับไวท์ก็ลึกซึ้งขึ้นกว่าเดิมมาก
ความหวานที่ถูกส่งผ่านมากับตัวอักษรยิ่งชัดเจนมากขึ้นจนวอนอูรู้สึกว่า
มันไม่ใช่แค่ตัวอักษรและเริ่มจะเป็นความจริงขึ้นมาทุกที แต่เขาเองก็ยังคงรู้สึกลังเลที่จะก้าวขาข้างที่สองเข้าไปในความสัมพันธ์นี้
ตัวจริงจะเป็นคนแบบนี้รึเปล่าก็ยังไม่รู้เลย...
‘ถ้าผมไม่ใช่คนแบบที่คุณวาดฝัน คำว่าเรามันจะเปลี่ยนไปมั้ยครับ?’
รู้ตัวอีกทีก็เผลอกดทวิตข้อความตัดพ้อแบบนั้นไปซะแล้ว
ข้อความที่บอทหลาย ๆ คนคงรู้สึกแบบเดียวกัน ตัวเลขตรงสัญลักษณ์ลูกศรที่วนเข้าหากันเป็นทรงสี่เหลี่ยมกับสัญลักษณ์รูปหัวใจนั้นเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว
ในส่วนของการแจ้งเตือนเองก็มีคนที่โควตทวิตของเขาเพื่อเมนชั่นหาใครบางคนอยู่ไม่น้อย
‘@cgREN_95
พี่เป็นอะไรรึเปล่า คุยกับผมได้นะ’
เมนชั่นแสดงความห่วงใยจากหนึ่งในกลุ่มเพื่อนสนิทของเขาทำให้รอยยิ้มจางแต้มลงบนใบหน้าของวอนอู
‘@CYoungjae_96x
พี่โอเคๆ แค่...รู้สึกอะไรนิดหน่อยอะ’
วอนอูส่งเมนชั่นตอบกลับไปแล้วก็แอบขำในใจ
เจ้าเด็กเยวอนที่เป็นเจ้าของแอคคงบ่นอยู่แน่ ๆ
เขาเป็นพวกเก็บความรู้สึกไว้ไม่ค่อยบอกใครเท่าไหร่ ชอบนั่งเศร้านั่งคิดมากคนเดียว
นั่นเพราะวอนอูรู้สึกว่า ปัญหาของตัวเองนั้นไม่ควรจะไปรบกวนใจของคนอื่น
‘@cgREN_95
ถ้าไม่โอเคต้องรีบบอกนะครับพี่’ วอนอูยิ้มบาง
มิตรภาพมันก็ไม่ได้มีอะไรมากมายไปมากกว่านี้แล้ว
อย่างเด็กเยวอนนี่ก็เจอกันเพราะคุยกันในบอทนี่แหละ เผอิญอยู่โรงเรียนย่านเดียวกับมหาวิทยาลัยของเขาเลยนัดเจอกันง่าย
เจอบ่อยจนคนอื่นเข้าใจผิดว่าเป็นแฟนกัน อาจจะเพราะชอบไปไหนมาไหนกันแค่สองคนด้วยล่ะมั้ง
‘@CYoungjae_96x
เลิกทำตัวเป็นแฟนพี่ที เดี๋ยวน้องพี่มางาบหัว 55555’
น้องที่ว่านี่ก็น้องแท้ ๆ ของเขา จอนโบฮยอก
เมื่อเดือนก่อนเยวอนมางอแงเรื่องที่ทางบ้านไม่เข้าใจเรื่องเรียนต่อเลยนัดไปเลี้ยงขนมแก้เครียด
โบฮยอกเลยขอไปด้วยเพราะอยากกินไอติมเจ้าใหม่พอดี พอเจอกันก็ปิ๊งเยวอนเลยตามจีบเลย
เพิ่งเป็นแฟนกันเมื่ออาทิตย์ก่อนนี่เอง
‘@cgREN_95
พี่ก็เลิกทำตัวเป็นแฟนผมก่อนดิ 555555’
คำพูดย้อนทำเอาวอนอูเผลอหัวเราะออกมา
เมื่อก่อนเยวอนชอบบ่นว่าเพราะเขา ตัวเองเลยไม่มีแฟนซะที จนมาเจอโบฮยอกนี่แหละ
“หนูเจอกับโบฮยอกเพราะพี่
เพราะงั้นหนูให้อภัยพี่ก็ได้” คำพูดของเยวอนที่เขากับโบฮยอกจำได้ดีและทำให้หัวเราะอยู่เสมอ
เดี๋ยวนี้ก็แอบเหงาอยู่เหมือนกันเพราะกลายเป็นโบฮยอกที่เป็นฝ่ายนัดเยวอนแทนเขาแล้ว
เพราะเรียนปีเดียวกันเลยเข้าใจอะไรหลายอย่าง บางทีก็มาขอให้เขาช่วยติวให้ทั้งคู่
ตัวติดกันเป็นตังเมเชียวล่ะ
เสียงแจ้งเตือนจากมือถือดังขึ้นอีกครั้ง
ร่างบางก้มลงมอง คราวนี้ไม่ใช่เมนชั่นแต่เป็น DM จากซิน...
‘ไวท์เป็นอะไรรึเปล่าครับ?’
‘ซินไม่ได้เรียนอยู่หรอครับ เดี๋ยวอ.ก็ดุหรอก’
‘ไวท์อย่าเปลี่ยนเรื่องสิครับ’ ปากอิ่มเม้มแน่น
แต่ก็ตัดสินใจตอบความคิดในตอนนี้ของตัวเองไป
ถึงจะยังไม่แน่ใจในความรู้สึกเท่าไหร่ก็เถอะ
‘ก็แค่...คิดว่าผมอาจจะไม่ใช่คนแบบที่คุณคิด... เอาจริงๆคุณคิดกับผมยังไง
ผมก็ไม่รู้อยู่ดีนี่ครับ’ สรรพนามที่เปลี่ยนไปทำให้วอนอูแอบกังวลใจ
แต่สำหรับเขาตอนนี้มันไม่ใช่การคุยกันระหว่างไวท์กะซินแล้ว
แต่เป็นตัววอนอูเองกับใครอีกคนที่เขาไม่เคยแม้แต่จะเห็นหน้าหรือรู้จักชื่อสักนิด
‘งั้น...เรามาเจอกับดีมั้ยครับ คุณกับผม’
วอนอูกะพริบตาปริบ ๆ ใส่ข้อความ
เหมือนเขาจะเข้าใจแฮะ...
‘ผมอยากเจอคุณนะ’
แล้วทำไมต้องมาเขินกับประโยคธรรมดาแบบนี้ด้วยนะ...
“วันนี้ไปไหนอะ”
เจ้าของดวงตาเรียวอีกคนในบ้านเอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นพี่ชายของตัวเองเดินลงมาในชุดลำลองที่ค่อนข้างดูดีกว่าปกติเล็กน้อย
“เดี๋ยวไป
CGV
มยองดงน่ะ
แล้วนี่ไปไหนรึเปล่า”
วอนอูเอ่ยตอบระหว่างหยิบกระเป๋าสตางค์มาเปิดเช็คเงินที่มีติดตัว
“อาทิตย์นี้ไม่มีหนังเข้านี่
พี่ยังไม่ได้ดูเรื่องไรอะ” โบฮยอกเลิกคิ้วอย่างแปลกใจพลางมองตามวอนอูที่เดินไปใส่รองเท้าผ้าใบ
วอนอูไม่ใช่พวกดูหนังทุกเรื่องที่เข้า
แต่เรื่องที่พี่ชายของเขาสนใจนั้นเขาก็จำได้ว่าวอนอูดูไปหมดแล้ว
เพราะพี่ชายของเขามักจะมาเล่าให้ฟังอยู่ตลอด
“เปล่า
นัดคนไว้อะ” วอนอูที่ใส่รองเท้าเสร็จแล้วยืดตัวขึ้นยืน
แล้วก็ต้องขมวดคิ้วกับใบหน้ากรุ้มกริ่มของน้องชาย
“เดทหรอพี่”
พูดจบคำปุ๊บ นิ้วยาวของวอนอูก็ดีดเข้าที่หน้าผากของน้องชายทันที
“โอ๊ย!
พี่อะ!” โบฮยอกได้แต่ตะโกนไล่หลังพี่ชายที่รีบวิ่งผ่านประตู
วอนอูแอบหันกลับมาแลบลิ้นใส่ก่อนจะปิดประตูใส่หน้าน้องชายแล้วรีบออกไปทันที
ร่างบางเดินเข้ามาในบริเวณหน้าทางเข้าโรงหนัง
มองไปรอบ ๆ เพื่อสำรวจผู้คน วันนี้คนค่อนข้างพลุกพล่านเพราะเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์
วอนอูไม่ค่อยชอบความแออัดของผู้คนเท่าไหร่นัก เขามักจะไปดูภาพยนตร์ที่ CGV
สาขาอื่น ๆ มากกว่าและไปวันธรรมดาด้วย
เมื่อพยายามมองแล้วแต่ไม่เจอคนที่คาดคิดว่าจะเป็นเจ้าของแอคเคาท์ชื่อซินจึงหยิบมือถือขึ้นมาพิมพ์ข้อความส่งในห้องแชท
‘ไวท์ถึงแล้วนะครับ’ วอนอูกดส่งแล้วจึงมองหาเก้าอี้ว่างนั่งรอ
เขาคิดว่าอีกฝ่ายคงยังไม่ถึงหรอก เพราะตอนนี้มันยังไม่ถึงเวลานัดเลย
ไม่รู้เพราะรถไฟฟ้ามาถึงชานชาลาแบบพอดีเป๊ะไม่ต้องรอหรือว่าเขาตื่นเต้นมากไปจนเดินเร็วขึ้นก็ไม่รู้
แต่เขาใช้เวลาแค่ยี่สิบนาทีในการมาถึงที่นัดหมาย
ทั้งที่การเดินทางมายังมยองดงของวอนอูจะกินเวลาเกือบครึ่งชั่วโมง
ตื่นเต้นอะไรขนาดนี้ล่ะ...
‘ซินกำลังไปนะครับ ไวท์รออยู่หน้าโรงหนังใช่มั้ย?’
‘ใช่ครับ ซินแต่งตัวยังไงหรอ’
‘เดี๋ยวซินถึงแล้วจะบอกนะ’ วอนอูถอนหายใจใส่มือถือเบา
ๆ ทำไมต้องทำให้เป็นความลับด้วยกับแค่เรื่องแต่งตัวเนี่ย
แต่คนตัวบางก็ไม่ได้ตอบกลับอะไร เมื่อรู้สึกว่าว่างมาก
วอนอูเลยกดเข้าแอพกล้องแล้วถ่ายรูปบริเวณโรงหนัง แต่งสีเล็ก ๆ น้อย ๆ
แล้วโพสต์ลงทวิตเตอร์
‘Waiting…
@JR95_O6O8x’
ยังไม่ทันจะเก็บมือถือเข้ากระเป๋ากางเกงก็มีเสียงแจ้งเตือนดังขึ้น
‘I’m
going @cgREN_95’
รูปที่แนบมาด้วยคงเป็นพื้นของรถไฟฟ้าใต้ดินสักสาย
มีส่วนหนึ่งของรองเท้าผ้าใบสีน้ำเงินเข้มกับขาวอยู่ในรูปด้วย วอนอูพยายามจดจำมันให้ได้
แต่ก็นึกขึ้นได้ว่ายังไงก็ต้องถามไถ่กันอยู่ดีเลยกดปิดรูปไป
แล้วจึงนั่งเลื่อนไทม์ไลน์ทวิตเตอร์ไปเรื่อยเปื่อย
‘@JR95_O6O8x
@cgREN_95 ฮั่นแน่ นัดเดทกันแล้วหรอ’ เมนชั่นแบบนี้มีแค่คนเดียวเท่านั้นแหละ วอนอูส่ายหน้าใส่มือถือเบา ๆ
เจ้าเด็กเยวอนไม่เคยพลาดอะไรแบบนี้สักครั้ง
‘@CYoungjae_96x
@JR95_O6O8x ไม่ยุ่งซักเรื่องไม่ได้หรอ เจ้าเด็กนี่...’
‘@CYoungjae_96x
@cgREN_95 ใช่ครับ เดทแรกเลยนะ อวยพรพี่หน่อยเร็ว’
คำตอบที่ต่างกันของไวท์กับซินทำเอาวอนอูหัวเราะออกมา
จะว่าไป ตั้งแต่เขาทวิตเรื่องนั้น สองคนนี้ก็ดูสนิทกันแปลก ๆ
สงสัยซินคงไปถามเยวอนเรื่องของเขาสินะ
‘@JR95_O6O8x
@cgREN_95 โชคดีครับพี่ ไม่รู้ใครจะเซอร์ไพรส์ใครกันแน่ 55555’
ยังไงฝั่งนั้นก็น่าจะเซอร์ไพรส์มากกว่าอยู่แล้ว
ก็เขาเป็นผู้ชายนี่นา...
พอไล่รีทวิตทั้งตารางงานวันนี้
ข่าวสาร รวมถึงรูปจากบ้านแฟนไซต์ต่าง ๆ ทั้งหมดแล้ว
วอนอูที่นั่งแกร่วอยู่เลยลุกขึ้นไปดูตารางภาพยนตร์ที่เครื่องขายตั๋วอัตโนมัติ
ในอาทิตย์นี้ ภาพยนตร์ที่เขาอยากดูก็ดูไปทั้งหมดแล้ว
เหลือแต่เรื่องที่เขาไม่ค่อยอยากดูเท่าไหร่ ไม่งั้นก็เป็นแนวเรื่องที่เขาไม่สนใจ
วอนอูยืนมองอยู่นานจนรู้สึกว่ามีคนมายืนข้างหลังเลยจะถอยออกให้
“ขอบคุณครับ”
เสียงนั้นทำให้ขาของวอนอูหยุดชะงัก
เสียงเหมือนเสียงของซินในหัวของเขาตอนนั้น...
วอนอูรีบหันหน้าไปมอง
เจ้าของเสียงเป็นผู้ชายตัวสูงชะลูดคนหนึ่ง สูงกว่าเขาเสียอีก
หน้าตาดีจนวอนอูคิดว่าเขาอาจจะเป็นคนในวงการคนหนึ่ง วอนอูสะดุ้งเล็กน้อยเมื่ออีกคนเลิกคิ้วใส่
คนตัวบางถอยออกมาพลางก้มหัวเล็กน้อยเป็นเชิงขอโทษ ก่อนจะเดินไปที่เคาน์เตอร์ขายอาหารและเครื่องดื่มต่าง
ๆ
“ที่นี่ไม่มีนาโช่หรอเนี่ย...”
เสียงแหบพึมพำในลำคอ ที่จริงเขาก็ไม่ได้ชอบนาโช่มากมายนัก
แค่อดแปลกใจไม่ได้ที่โรงหนังกลางย่านวัยรุ่นแบบนี้ไม่มีเมนูที่ฮิตกันแบบโรงหนังอื่น
เสียงแจ้งเตือนของมือถือทำให้เขาต้องก้มลงหยิบมันออกมาดู
‘ซินถึงแล้วนะครับ ไวท์อยู่ตรงไหน?’ วอนอูเงยหน้าพลางหันซ้ายทีขวาที
แต่จำนวนคนที่จดจ่ออยู่กับมือถือนั้นมีมากกว่าที่คิด
ซึ่งเขาก็จนปัญญาจะคาดเดาว่าหนึ่งในนั้นคือซิน
‘ไวท์อยู่หน้าเคาน์เตอร์ขนมครับ ซินอยู่ตรงไหน?’
วอนอูกดส่งข้อความพลางหมุนตัวเพื่อจะมองหาอีกคนได้ถนัด
แต่ก็พบกับคนคนหนึ่งที่มาหยุดยืนอยู่ด้านหน้าของเขา
“ไวท์ใช่มั้ยครับ?”
คำถามนั้นไม่น่าตกใจเท่ากับเสียงที่เอ่ยออกมา
วอนอูชะงักค้างก่อนจะค่อย ๆ เงยหน้าขึ้น
“อ...เอ่อ...
คุณ...”
ร่างบางพยายามเรียบเรียงคำพูดในสมองแต่เหมือนร่างกายจะไม่ค่อยเป็นใจเท่าไหร่นัก
พูดตะกุกตะกักอยู่ 2-3 คำก็ยอมแพ้และเก็บมือถือเข้ากระเป๋ากางเกงไป
“ซินเองครับ”
เจ้าของใบหน้าหล่อยกยิ้ม เผยให้เห็นฟันเขี้ยวที่ดูมีเสน่ห์
“ไวท์น่ารักจริง
ๆ ด้วย...” เสียงทุ้มที่พึมพำออกมาทำเอาใบหน้าติดหวานขึ้นสีระเรื่อ วอนอูหลุบตาลงเม้มปากแน่น
มือเจ้ากรรมไม่รู้จะไว้ที่ไหนเลยได้แต่กำมันเข้าไว้ด้วยกันจนแน่น
“ไวท์ครับ”
เสียงทุ้มเอ่ยเรียก วอนอูเลี่ยงไม่ได้จึงเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง
สบตาเพียงเสี้ยววิก็เบนหนีไปทางอื่นอีก
ให้ตายสิ
ทำไมเขาถึงเขินผู้ชายด้วยกันได้ขนาดนี้...
ทั้งคู่ยืนกันอยู่เงียบ
ๆ อย่างนั้นครู่ใหญ่ วอนอูพยายามไม่มองตาอีกคน
เขารู้ตัวว่าใบหน้าของเขาเป็นสีแดงและไม่หายง่าย ๆ แน่
เช่นเดียวกับหัวใจของเขาที่ตอนนี้เต้นรัวไม่หยุด เลือดสูบฉีดไปทั่วร่างอย่างรวดเร็วจนเขารู้สึกร้อนขึ้นมาเลยยกมือขึ้นมาพัดตัวเอง
วอนอูรู้ว่าอีกคนยังคงจ้องมองเขาไม่วางตา ร่างบางพยายามหลบสายตาอย่างเต็มที่
ไม่รู้ตัวเลยว่าอีกคนกำลังกลั้นยิ้มอย่างยากลำบาก
“จะไม่มองกันจริง
ๆ หรอครับคุณ” คนตัวสูงเอ่ยขึ้นมาอีกครั้ง วอนอูส่ายหน้าเบา ๆ จนอีกคนหัวเราะออกมา
มือใหญ่ยื่นกล่องของขวัญมาให้ ตาเรียวมองมันสักครู่ก่อนจะรับมาถือไว้เฉย ๆ
ได้ยินอีกคนถอนหายใจออกมาเบา ๆ แล้วดึงกล่องของขวัญนั้นกลับไปเปิดเอง
วอนอูมองมือใหญ่ที่หยิบเชือกถักสีม่วงขาวออกมา
“อันนี้ผมทำเองแหละ
ที่ถามไวท์ไปว่าชอบสีอะไรไงครับ” พูดพลางดึงข้อมืออีกคนขึ้นมาแล้วผูกเชือกถักให้
ร่างบางยืนนิ่งและมองมือใหญ่ที่กำลังวุ่นวายกับข้อมือตัวเองไม่วางตา
เมื่อเสร็จแล้ว คนตัวสูงก็หยิบแหวนออกมาต่อ
จับมือเล็กข้างขวาขึ้นมาแล้วสวมแหวนสีเงินให้ที่นิ้วนาง
“อ๊ะ
ด...เดี๋ยวสิ...” วอนอูขืนมือตัวเองออก เงยมองหน้าอีกคนที่เลิกคิ้วเป็นเชิงถาม
“คือ...มันจะไม่เร็วไปหน่อยหรอ?”
เสียงแหบพึมพำก่อนจะหลุบตาอีกครั้ง
“ก็ว่าอยู่แหละครับ
งั้น...ถ้าใส่เป็นสร้อยล่ะ?”
ร่างสูงก้มลงมองในกล่องของขวัญแล้วหยิบสายสร้อยที่เป็นโซ่เล็ก ๆ ออกมา
ถอดแหวนออกจากนิ้วเรียวมาใส่สายโซ่นั่นแทน
วอนอูถึงกับยืนเกร็งเมื่ออีกคนเอื้อมมือมาใส่สร้อยให้
ใบหน้าที่ใกล้ชิดกันมากขึ้นยิ่งทำให้แก้มร้อนผ่าว
“ไวท์ตัวหอมนะ...”
เสียงทุ้มพึมพำข้างหูก่อนจะผละออกมามองยิ้ม ๆ
“หยุดพูดได้แล้วน่า...”
วอนอูบ่นอุบอิบ ถึงเสียงจะเบาแต่อีกคนก็ได้ยินเพราะงั้นเลยอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
“ขี้เขินจัง”
หยุดพูดซะที!
“แล้ว...นี่ชื่ออะไรน่ะ”
วอนอูเอ่ยถามหลังจากที่มาหาร้านนั่งกินมื้อกลางวันกัน
สรุปก็ไม่ได้ดูหนังเพราะเขาไม่มีเรื่องที่อยากดู
บวกกับอีกคนที่ตื่นสายเลยรีบออกมาจนไม่ได้กินข้าว
“มินกยูครับ
คิมมินกยู” ที่จริงก็ไม่ค่อยอยากพูดคุยเท่าไหร่
เพราะเสียงทุ้มนั่นทำเอานึกถึงตอนนั้นตลอด แต่จะนั่งเป็นใบ้กันก็ใช่ที่
เลยได้แต่ตั้งสติแล้วพยายามทำตัวปกติที่สุดเท่าที่ทำได้
“ผมวอนอูนะ
จอนวอนอู”
“รู้แล้วแหละครับ”
มินกยูพูดพลางยิ้มแยกเขี้ยว วอนอูขมวดคิ้วมองนิ่ง
“ก็...ผมไปถามบอทยองแจฮยองคนนั้นมา
ที่จริงกะจะเรียกชื่อจริงตั้งแต่เจอกันด้วยแต่กลัวจะตกใจมากกว่าเดิม
แค่เรียลผมเป็นผู้ชายพี่ก็น่าจะตกใจอยู่แล้ว แต่พี่น่ารักกว่าที่คิดอีกนะ
เหมือนตกหลุมรักอีกครั้งเลยอะครับ จริง ๆ นะ” คนตัวสูงพูดเจื้อยแจ้วระหว่างเคี้ยวเฟรนช์ฟรายส์
“เดี๋ยวนะ...
นี่แสดงว่ารู้เรียลอยู่แล้วสิ...” วอนอูก็อยากจะเขินกับประโยคหลังอยู่หรอกนะ
แต่ประโยคแรกที่ได้ยินมันทำให้เขารีบหยิบมือถือขึ้นมาเข้าแอพทวิตเตอร์
นิ้วเรียวพิมพ์ข้อความอย่างรวดเร็วแล้วส่งเข้าไปใน DM ของบอทยองแจผู้เป็นน้องคนสนิท
โดยไม่สนใจเสียงงุ้งงิ้งงอแงเพราะอีกคนไม่สนใจคำหวานของตัวเองของคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม
‘เจ้าเด็กแสบ บอกเรียลพี่ให้ซินรู้หรอ!!’ รอไม่ถึงนาที เจ้าของแอคยองแจก็ตอบกลับมา
‘เซอร์พร้ายยยยยยยยย 555555555555555555555’