2 พฤษภาคม 2560

[DANIEL x YOU] Friends w/ Benefits [ 2 ]

Title : Friends w/ Benefits

Pairing : Kang Daniel x You

Rate : PG-15

Words : ~1100

By : AKEmi

Note : ขอบคุณสำหรับความสนใจมากๆเลยนะคะ เอาจริงๆก็ไม่คิดว่าจะมีคนอ่านด้วยเพราะแต่งตามใจตัวเองมาก 55555555 ไทม์ไลน์ในเรื่องอาจจะโดดๆนิดหน่อยนะคะ เราแต่งแค่เหตุการณ์สำคัญๆไม่เรื่อยเปื่อยมาก ไม่อยากให้ยืด กลัวจะเบื่อกัน แหะๆ

Tag : #ฟวบนฟ

























            คังแดเนียลกำลังนั่งเบื่ออยู่ในงานเลี้ยงต้อนรับของบริษัทโลจิสติกส์อันดับต้น ลูกสาวคนเล็กของประธานบริษัทกลับมาจากเรียนซัมเมอร์แค่นี้ก็ต้องจัดใหญ่โต คงจะได้มีตำแหน่งหน้าที่ในบริษัทซะล่ะมั้ง


            “เลิกทำหน้าแบบนั้นที” จูฮังนยอนนั่งลงข้าง ๆ เขา มือยื่นแก้วไวน์เล็กให้



            “หน้ามึงก็ไม่ต่างจากกูมั้ย แล้วนี่สาว ๆ ไม่มาเลยหรอวะ” แดเนียลเอ่ยถาม เพราะได้นั่งเฉย ๆ เลยได้มองสำรวจไปทั่วห้อง ทำให้ไม่เห็นแก๊งสาว ๆ ที่เขารู้จักสักคน



            “ใครจะมา ไม่ใช่งานต้อนรับลูกชายประธานนี่หว่า นี่กูก็เห็นแต่พวกผู้ชายเนี่ย ขนาดจินยองมันยังมาเลย แม่มันคงจับใส่รถให้มาปล่อยที่นี่แหง” เบจินยองเป็นลูกชายคนเล็กของหุ้นส่วนใหญ่ของสายการบินหนึ่ง สังคมธุรกิจที่ใช้ความสัมพันธ์ของลูก ๆ เพื่อเงินของพ่อแม่มันก็เป็นเรื่องที่ค่อนข้างปกติ



            “คนอย่างเบจินยองออกงาน แม่มันนี่น่าจะหวังกับที่นี่ไว้เยอะเหมือนกันนะ”



            “ก็โลจิสเก่ามันโดนลูกค้าฟ้องจนชื่อเหี้ยขนาดนั้น เป็นกูกูก็หาใหม่ ที่จริงนี่ก็ว่าจะคุยด้วยเหมือนกันนะ ออเดอร์ต่างประเทศเริ่มเยอะ แต่ถ้าไม่อยู่ในตำแหน่งก็ยากว่ะ” ทั้งสองนั่งเงียบ ๆ กันต่อ พวกเขาสนิทกันก็จริงแต่เพราะเป็นผู้ชายเลยไม่ค่อยจะยุ่งเรื่องส่วนตัวกันเท่าไหร่นัก ฮังนยอนเองก็ไม่ใช่พวกช่างคุยแบบเขา ติดจะเงียบแบบจินยองด้วยซ้ำแค่หน้าตาดูเป็นมิตรกว่าเท่านั้นเอง



            “อ้าว มาว่ะ” มือที่ฮังนยอนยกขึ้นโบกให้ใครคนหนึ่งทำให้แดเนียลเงยหน้าขึ้นมามอง หญิงสาวที่เขาคุ้นเคยเดินเข้ามาหา คืนนี้เธอใส่ LBD ที่มีลูกเล่นแค่พองามแถมยังแต่งหน้าไม่แรง สร้างความแปลกใจให้กับเพื่อนสนิท



            “เกือบจำไม่ได้ ทำไมวันนี้เบาจัง” แดเนียลเอ่ยทัก เธอถอนหายใจเบา ๆ



            “ตื่นสาย” คำตอบของเธอทำให้ชายหนุ่มทั้งสองหลุดหัวเราะออกมา



            “เธอนี่มันจริง ๆ เลย เออ แต่แบบนี้ก็สวยดี” ฮังนยอนเอ่ยชม



            “Thanks เป็นเกียรติมากที่จูฮังนยอนชมฉันว่าสวย” เธอยกมือสะบัดผมก่อนจะหัวเราะออกมาพร้อมกันกับเพื่อนสนิท



            “แล้วนึกไงมางาน บ้านเธอมีโลจิสอยู่แล้วนี่” แดเนียลเอ่ยถาม เธอถอนหายใจอีกครั้งก่อนจะตอบ



            “คุณนายเค้ารู้จักกับบ้านนี้น่ะสิ ทีนี้เลยต้องมากันทั้งบ้าน” แม่ของเธอเป็นพวกมางานต้องพกทุกคนในบ้านมาด้วย ต่างจากพ่อที่มักจะไปงานเลี้ยงต่าง ๆ เพียงคนเดียว ยกเว้นงานที่เกี่ยวข้องกับแฟชั่นก็จะให้เธอไปด้วย แต่ก็ไม่ได้บังคับอะไร



            “น่าสงสาร” ถึงจะพูดอย่างนั้นแต่ชายหนุ่มผมชมพูกลับหัวเราะใส่เธอเสียอย่างนั้น จนเธออดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นมาตีแขนเขาเข้าหนึ่งที แดเนียลร้องโอดโอยเบา ๆ แล้วดึงยื้อมือกับเธอไปมา



            “ตีกันเป็นเด็ก...” ฮังนยอนพึมพำ ได้ยินดังนั้นพวกเธอสองคนจึงหยุดและปล่อยมือออกจากกัน











            ในที่สุดก็ถึงเวลาเปิดตัวทายาทคนสุดท้องของเจ้าของบริษัทนี้เสียที เธอจับแขนฮังนยอนมาควงก่อนจะเดินไปใกล้ ๆ เวทีโดยที่แดเนียลเดินตามมาด้านหลัง



            “ขอเชิญพบกับคุณจอนโซมีค่ะ” สิ้นเสียงพิธีกร เสียงปรบมือก็ดังทั่วงาน หญิงสาวที่ดูเด็กกว่าเธอเล็กน้อยก้าวขึ้นมาบนเวที หน้าตาออกลูกครึ่งทำให้ดูมีเสน่ห์มากทีเดียว ชุดสีโอรสที่ใส่ทำให้ดูอ่อนหวานแต่รูปแบบของชุดที่เป็นแบบเปิดไหล่ผ้าเรียบเข้ารูปก็ทำให้ดูเซ็กซี่เล็ก ๆ



            “สเปคแกนี่นา” เธอหันหลังไปพึมพำกับเพื่อนสนิท ฮังนยอนเองก็แอบเหลือบมอง ชายหนุ่มพยักหน้าและแย้มยิ้มมุมปากทั้งที่ยังจดจ้องหญิงสาวบนเวที เห็นดังนั้นเธอเลยหันกลับมาส่ายหน้ากับฮังนยอน



            “ไม่รอด” คำที่ฮังนยอนเอ่ยออกมาทำให้เธอต้องกลั้นหัวเราะ







            การแนะนำตำแหน่งในบริษัทและการเดินทักทายของจอนโซมีผ่านไปได้ด้วยดี หลังจากเห็นว่าโซมีไม่ได้มีคนร่วมพูดคุยมากมายเท่าเมื่อไม่กี่นาทีก่อน ฮังนยอนกับแดเนียลก็รีบเข้าไปสนทนาด้วยทันที คนแรกไม่พ้นเรื่องออเดอร์ต่างประเทศของตนเองอยู่แล้ว ส่วนคนหลังนี่ก็ไม่พ้น อยากรู้จักให้มากขึ้น



            “นูน่าทำไมอยู่คนเดียวล่ะครับ” เสียงเรียกจากทางขวาทำให้เธอหันไปมอง เบจินยองยื่นแก้วไวน์ที่บรรจุน้ำพันช์สีชมพูสวยมาให้ หญิงสาวรับมาแล้วกล่าวขอบคุณเบา ๆ ก่อนจะจิบไปเล็กน้อย ปกติเธอไม่ค่อยไว้ใจรับเครื่องดื่มจากใครหรอก แต่เธอรู้ว่าจินยองเป็นเด็กนิสัยดีและไม่คิดอะไรกับเธอ



            “ฮังนยอนกับแดเนียลคุยกับโซมีอยู่น่ะ” เธอพยักเพยิดไปยังทิศที่ทั้งสามคนยืนคุยกันอยู่



            “อ๋อ ออเดอร์ต่างประเทศสินะครับ” จินยองพยักหน้าพลางยกแก้วพันช์ของตนขึ้นมาดื่มบ้าง



            “เหงาล่ะสิ ไม่เห็นแก๊งมาเลย” กลุ่มของจินยองจะเด็กกว่าเธอเล็กน้อย ค่อนข้างจะแสบพอสมควร มีแค่จินยองที่ดูเป็นเด็กเรียบร้อยอยู่คนเดียว



            “ที่จริง...นัดกันไปดูหนังอะครับ แต่คุณหญิงให้ผมมางานนี้...” พูดจบจินยองก็เหลือบมองไปทางดาวเด่นของงานคืนนี้



            “อ๋า... โซมีสินะ คุณหญิงคุณนายแต่ละบ้านนี่เป็นงี้กันหมดเลยรึเปล่าเนี่ย” คำพูดของเธอทำให้จินยองหัวเราะเบา ๆ หญิงสาวยิ้มให้กับความน่ารักนั้น ทั้งสองพูดคุยกันไปเรื่อยเปื่อยก่อนที่ฮังนยอนจะมาสมทบด้วย



            “ไงจินยอง ไม่ไปคุยกับโซมีล่ะ น่ารักอยู่นะ” ฮังนยอนเอ่ยก่อนจะเรียกบริกรให้มาเสิร์ฟเครื่องดื่มให้



            “ไม่ล่ะฮยอง ไม่ใช่สเปคเลยอะ” คำพูดตรงไปตรงมาของคนอายุน้อยกว่าทำให้ฮังนยอนหลุดขำออกมา



            “ไม่ไปคุยไว้หน่อยเดี๋ยวคุณหญิงก็บ่นหรอก” เธอเอ่ยแต่จินยองก็ส่ายหน้าอยู่ดี



            “ผมไม่ไปแทรกฮยองเค้าดีกว่า แล้วผมว่าผมไม่น่าจะใช่สเปกคุณโซมีเค้าด้วย” จบคำพูดของจินยอง ทั้งสามก็หันไปมองคนที่ถูกพูดถึงที่กำลังคุยกันอย่างสนุกสนาน



            “ไม่ปล่อยเลยจริง ๆ แฮะ...” ฮังนยอนพึมพำ เธอพยักหน้าเห็นด้วยเบา ๆ











          ...จากวันนี้ไปคงเหงาไปอีกสักพักใหญ่เลยสินะ...





















30 เมษายน 2560

[DANIEL x YOU] Friends w/ Benefits

Title : Friends w/ Benefits

Pairing : Kang Daniel x You

Rate : PG-15

Words : ~600

By : AKEmi

Note : นับเป็นอินโทรได้รึเปล่านะ เพราะสั้นเหลือเกิน 55555555 ช่วงนี้หลงคุณเค้าพอสมควรแล้วอยากเขียนพลอตนี้พอดีเลยใช้คุณเค้าซะเลย 555555 คงมีเด็ก 101 มาอีกหลายคน อาจจะอัพช้ามากๆ (ยังมีช้ากว่านี้อีกหรอ...) ยังไงฝากติดตามกันนะคะ จะสู้ไปกับคุณคังนะ 5555

Tag : #ฟวบนฟ
























            หญิงสาวลืมตาขึ้นมาในตอนเช้า แสงแดดที่ลอดผ่านม่านสีเทาเข้ามาทำให้เธอตื่นเต็มตา เธอขยับพลิกตัว จ้องมองไปยังชายหนุ่มเจ้าของผมสีชมพูที่นอนเปลือยอยู่ข้าง ๆ อยู่แบบนั้นได้ไม่นาน แขนแกร่งก็โอบกอดและดันให้ตัวเธอเข้าไปใกล้จนใบหน้าชิดกัน



            “Good morning Honey” เสียงแหบต่ำเอ่ยข้างหูพร้อมกับจุมพิตข้างแก้ม



            “Good morning ปล่อยได้แล้ว จะไปอาบน้ำ” น้ำเสียงนิ่งของเธอทำให้เขาหัวเราะออกมาเบา ๆ ก่อนจะปล่อยเธอออกจากอ้อมกอดและยกมือขึ้นเท้าศีรษะมองร่างบางที่ผละออกแล้วดันตัวเองขึ้นนั่ง



            “หายอยากแล้วก็เย็นชากันแบบนี้เลยหรอครับ Honey” มุมปากที่ยกยิ้มและมือที่จับมือของเธออยู่นั้นทำให้เธอเบะปากใส่



            “โตแล้วก็ดูแลตัวเองเองสิ คัง แด เนียล” เสียงเรียบเอ่ยเน้นชื่อของเขาทีละพยางค์



            “เธอนี่... ไม่คิดจะเอาใจฉันบ้างหรอ” เขาเบะปากพร้อมกับดึงมือของเธอไปถูไถเป็นเชิงอ้อน



            “เป็นเพื่อนกันจะต้องดูแลอะไรมากมาย” เธอหยิกแก้มของเขาเบา ๆ แล้วหลุดหัวเราะออกมาเมื่อเห็นใบหน้าเหยเกที่ออกจะเว่อร์เกินไปหน่อย



            “แล้วคืนนี้จะไปงานคอลเลคชั่นใหม่ของฮังนยอนมั้ย” หญิงสาวเอ่ยถาม จูฮังนยอนเป็นเพื่อนอีกคนหนึ่งที่เธอค่อนข้างสนิท เขาเปิดแบรนด์เครื่องประดับเงินเป็นของตัวเองตั้งแต่อายุไม่ถึงยี่สิบดี เธอเองก็เคยเป็นนางแบบต่างหูในคอลเลคชั่นหนึ่งของเขาด้วย



            “ไปอยู่แล้ว ไม่ไปเดี๋ยวก็มีข่าวลือว่าฉันทะเลาะกับมันอีก น่าเบื่อ” แดเนียลเอ่ยเสียงเรียบ มือบางของเธอลูบใบหน้าไม่สบอารมณ์ของเขาแผ่วเบา



            “ก็คราวที่แล้วเล่นอัพไอจีไปแบบนั้น ใครเค้าก็เข้าใจผิดหมด” ที่เธอพูดถึงคือเหตุการณ์เมื่อเดือนก่อนที่แดเนียลโพสต์ไอจีเกี่ยวกับการโดนเบี้ยวรูปจากงานถ่ายแบบ ซึ่งห่างจากที่ฮังนยอนอัพเดทคอลเลคชั่นใหม่ที่เขาไปเป็นนายแบบให้เพียงไม่กี่วัน แม็กกาซีนซุบซิบลงข่าวใหญ่โตจนแดเนียลต้องรีบโพสต์ไอจีแก้ข่าวว่าเป็นเอเจนซี่หนึ่งที่เสนองานให้เขาเมื่อหลายเดือนก่อน



            “ก็ไม่นึกว่าคนอื่นจะนึกถึงงานฮังนยอนกันนี่...”



            “น่า ๆ ไปอาบน้ำละ แกก็กลับห้องได้แล้ว เดี๋ยวฉันออกไปหาป๊าตอนบ่าย คงแต่งตัวที่บ้าน” หญิงสาวผละมือออกและลุกขึ้นยืนทั้งที่ตัวเปลือยเปล่าแต่เธอก็ไม่ได้เขินอายอะไร เพราะคนผมชมพูที่นอนอยู่บนเตียงของเธอนั้นก็เห็นทั่วทั้งร่างกายของเธอมาหลายครั้งแล้ว



            “อ้าว อดไปด้วยกันเลย”



            “แค่นี้ยังเป็นข่าวบ่อยไม่พอหรือไงคะ คุณคังแดเนียล” เธอถอนหายใจอย่างเบื่อหน่ายก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป ที่จริงจะเรียกแดเนียลว่าศูนย์รวมข่าวซุบซิบก็ไม่แปลก ด้วยนิสัยที่ค่อนข้างเถรตรงทำให้เวลาเกิดเรื่องอะไรขึ้นเจ้าตัวก็พร้อมจะพูดตรง ๆ ลงบนโซเชียลให้พวกนักข่าวมีข่าวทำเสมอ รวมถึงเรื่องผู้หญิงด้วยเพราะเจ้าตัวไม่ชอบการเผื่อเลือกอย่างแรง เวลาคุย ๆ กับใครก็จะประกาศให้ทุกคนรู้เสมอ แต่ก็ไม่มีใครอยู่ในไอจีของเขามากเท่าเธออีกแล้ว แน่ล่ะ รู้จักกันมาตั้งแต่มัธยมนี่นา







            ...แต่พอผู้ชายกับผู้หญิงสนิทกันมากหน่อยก็คิดไกลกันหมด...






















5 เมษายน 2560

[SEVENTEEN] [SF] เล่นบอท EP2 (MINWON/MEANIE)

Title : เล่นบอท EP2 (EP1[Series : มินวอนขี้เล่น]

Pairing : Mingyu x Wonwoo

Rate : NC

Words : ~2600

By : AKEmi

Note : มาต่อตอนที่สองแล้วนะคะ ตอนนี้ก็สั้นๆอีกเช่นเดิม แฮ่... ขออนุญาตโฆษณา เราเปิดบทความของเซเว่นทีนในเด็กดีแล้วนะคะ จะลงเป็น OS/SF ธรรมดา แล้วก็มีคู่อื่นด้วย (แต่ตอนนี้ยังมีแค่มินวอน 55555) ตามได้ที่แท็กนี้เลยนะคะ >> #เซบทีนของอาเคมิ แล้วก็เดี๋ยวจะมีเรื่องยาวลงในเด็กดีเช่นกัน คิดว่าคงเปิดเรื่องไม่เกินเดือนเมษา ยังไงฝากติดตามกันด้วยนะคะ >_<

Tag : #มินวอนขี้เล่น#มินวอนเล่นบอท






















            หลังจากวันนั้น ความสัมพันธ์ของซินกับไวท์ก็ลึกซึ้งขึ้นกว่าเดิมมาก ความหวานที่ถูกส่งผ่านมากับตัวอักษรยิ่งชัดเจนมากขึ้นจนวอนอูรู้สึกว่า มันไม่ใช่แค่ตัวอักษรและเริ่มจะเป็นความจริงขึ้นมาทุกที แต่เขาเองก็ยังคงรู้สึกลังเลที่จะก้าวขาข้างที่สองเข้าไปในความสัมพันธ์นี้



          ตัวจริงจะเป็นคนแบบนี้รึเปล่าก็ยังไม่รู้เลย...



          ถ้าผมไม่ใช่คนแบบที่คุณวาดฝัน คำว่าเรามันจะเปลี่ยนไปมั้ยครับ?



            รู้ตัวอีกทีก็เผลอกดทวิตข้อความตัดพ้อแบบนั้นไปซะแล้ว ข้อความที่บอทหลาย ๆ คนคงรู้สึกแบบเดียวกัน ตัวเลขตรงสัญลักษณ์ลูกศรที่วนเข้าหากันเป็นทรงสี่เหลี่ยมกับสัญลักษณ์รูปหัวใจนั้นเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว ในส่วนของการแจ้งเตือนเองก็มีคนที่โควตทวิตของเขาเพื่อเมนชั่นหาใครบางคนอยู่ไม่น้อย



            ‘@cgREN_95 พี่เป็นอะไรรึเปล่า คุยกับผมได้นะ เมนชั่นแสดงความห่วงใยจากหนึ่งในกลุ่มเพื่อนสนิทของเขาทำให้รอยยิ้มจางแต้มลงบนใบหน้าของวอนอู



            ‘@CYoungjae_96x พี่โอเคๆ แค่...รู้สึกอะไรนิดหน่อยอะ วอนอูส่งเมนชั่นตอบกลับไปแล้วก็แอบขำในใจ เจ้าเด็กเยวอนที่เป็นเจ้าของแอคคงบ่นอยู่แน่ ๆ เขาเป็นพวกเก็บความรู้สึกไว้ไม่ค่อยบอกใครเท่าไหร่ ชอบนั่งเศร้านั่งคิดมากคนเดียว นั่นเพราะวอนอูรู้สึกว่า ปัญหาของตัวเองนั้นไม่ควรจะไปรบกวนใจของคนอื่น



            ‘@cgREN_95 ถ้าไม่โอเคต้องรีบบอกนะครับพี่ วอนอูยิ้มบาง มิตรภาพมันก็ไม่ได้มีอะไรมากมายไปมากกว่านี้แล้ว อย่างเด็กเยวอนนี่ก็เจอกันเพราะคุยกันในบอทนี่แหละ เผอิญอยู่โรงเรียนย่านเดียวกับมหาวิทยาลัยของเขาเลยนัดเจอกันง่าย เจอบ่อยจนคนอื่นเข้าใจผิดว่าเป็นแฟนกัน อาจจะเพราะชอบไปไหนมาไหนกันแค่สองคนด้วยล่ะมั้ง



            ‘@CYoungjae_96x เลิกทำตัวเป็นแฟนพี่ที เดี๋ยวน้องพี่มางาบหัว 55555 น้องที่ว่านี่ก็น้องแท้ ๆ ของเขา จอนโบฮยอก เมื่อเดือนก่อนเยวอนมางอแงเรื่องที่ทางบ้านไม่เข้าใจเรื่องเรียนต่อเลยนัดไปเลี้ยงขนมแก้เครียด โบฮยอกเลยขอไปด้วยเพราะอยากกินไอติมเจ้าใหม่พอดี พอเจอกันก็ปิ๊งเยวอนเลยตามจีบเลย เพิ่งเป็นแฟนกันเมื่ออาทิตย์ก่อนนี่เอง



            ‘@cgREN_95 พี่ก็เลิกทำตัวเป็นแฟนผมก่อนดิ 555555’ คำพูดย้อนทำเอาวอนอูเผลอหัวเราะออกมา เมื่อก่อนเยวอนชอบบ่นว่าเพราะเขา ตัวเองเลยไม่มีแฟนซะที จนมาเจอโบฮยอกนี่แหละ



            “หนูเจอกับโบฮยอกเพราะพี่ เพราะงั้นหนูให้อภัยพี่ก็ได้” คำพูดของเยวอนที่เขากับโบฮยอกจำได้ดีและทำให้หัวเราะอยู่เสมอ เดี๋ยวนี้ก็แอบเหงาอยู่เหมือนกันเพราะกลายเป็นโบฮยอกที่เป็นฝ่ายนัดเยวอนแทนเขาแล้ว เพราะเรียนปีเดียวกันเลยเข้าใจอะไรหลายอย่าง บางทีก็มาขอให้เขาช่วยติวให้ทั้งคู่ ตัวติดกันเป็นตังเมเชียวล่ะ






            เสียงแจ้งเตือนจากมือถือดังขึ้นอีกครั้ง ร่างบางก้มลงมอง คราวนี้ไม่ใช่เมนชั่นแต่เป็น DM จากซิน...



          ไวท์เป็นอะไรรึเปล่าครับ?



          ‘ซินไม่ได้เรียนอยู่หรอครับ เดี๋ยวอ.ก็ดุหรอก



            ไวท์อย่าเปลี่ยนเรื่องสิครับ ปากอิ่มเม้มแน่น แต่ก็ตัดสินใจตอบความคิดในตอนนี้ของตัวเองไป ถึงจะยังไม่แน่ใจในความรู้สึกเท่าไหร่ก็เถอะ



          ก็แค่...คิดว่าผมอาจจะไม่ใช่คนแบบที่คุณคิด... เอาจริงๆคุณคิดกับผมยังไง ผมก็ไม่รู้อยู่ดีนี่ครับ สรรพนามที่เปลี่ยนไปทำให้วอนอูแอบกังวลใจ แต่สำหรับเขาตอนนี้มันไม่ใช่การคุยกันระหว่างไวท์กะซินแล้ว แต่เป็นตัววอนอูเองกับใครอีกคนที่เขาไม่เคยแม้แต่จะเห็นหน้าหรือรู้จักชื่อสักนิด



            งั้น...เรามาเจอกับดีมั้ยครับ คุณกับผม วอนอูกะพริบตาปริบ ๆ ใส่ข้อความ



          เหมือนเขาจะเข้าใจแฮะ...





          ‘ผมอยากเจอคุณนะ



          แล้วทำไมต้องมาเขินกับประโยคธรรมดาแบบนี้ด้วยนะ...



















            “วันนี้ไปไหนอะ” เจ้าของดวงตาเรียวอีกคนในบ้านเอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นพี่ชายของตัวเองเดินลงมาในชุดลำลองที่ค่อนข้างดูดีกว่าปกติเล็กน้อย



            “เดี๋ยวไป CGV มยองดงน่ะ แล้วนี่ไปไหนรึเปล่า” วอนอูเอ่ยตอบระหว่างหยิบกระเป๋าสตางค์มาเปิดเช็คเงินที่มีติดตัว



            “อาทิตย์นี้ไม่มีหนังเข้านี่ พี่ยังไม่ได้ดูเรื่องไรอะ” โบฮยอกเลิกคิ้วอย่างแปลกใจพลางมองตามวอนอูที่เดินไปใส่รองเท้าผ้าใบ วอนอูไม่ใช่พวกดูหนังทุกเรื่องที่เข้า แต่เรื่องที่พี่ชายของเขาสนใจนั้นเขาก็จำได้ว่าวอนอูดูไปหมดแล้ว เพราะพี่ชายของเขามักจะมาเล่าให้ฟังอยู่ตลอด



            “เปล่า นัดคนไว้อะ” วอนอูที่ใส่รองเท้าเสร็จแล้วยืดตัวขึ้นยืน แล้วก็ต้องขมวดคิ้วกับใบหน้ากรุ้มกริ่มของน้องชาย



            “เดทหรอพี่” พูดจบคำปุ๊บ นิ้วยาวของวอนอูก็ดีดเข้าที่หน้าผากของน้องชายทันที



            “โอ๊ย! พี่อะ!” โบฮยอกได้แต่ตะโกนไล่หลังพี่ชายที่รีบวิ่งผ่านประตู วอนอูแอบหันกลับมาแลบลิ้นใส่ก่อนจะปิดประตูใส่หน้าน้องชายแล้วรีบออกไปทันที











            ร่างบางเดินเข้ามาในบริเวณหน้าทางเข้าโรงหนัง มองไปรอบ ๆ เพื่อสำรวจผู้คน วันนี้คนค่อนข้างพลุกพล่านเพราะเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ วอนอูไม่ค่อยชอบความแออัดของผู้คนเท่าไหร่นัก เขามักจะไปดูภาพยนตร์ที่ CGV สาขาอื่น ๆ มากกว่าและไปวันธรรมดาด้วย เมื่อพยายามมองแล้วแต่ไม่เจอคนที่คาดคิดว่าจะเป็นเจ้าของแอคเคาท์ชื่อซินจึงหยิบมือถือขึ้นมาพิมพ์ข้อความส่งในห้องแชท



            ไวท์ถึงแล้วนะครับ วอนอูกดส่งแล้วจึงมองหาเก้าอี้ว่างนั่งรอ เขาคิดว่าอีกฝ่ายคงยังไม่ถึงหรอก เพราะตอนนี้มันยังไม่ถึงเวลานัดเลย ไม่รู้เพราะรถไฟฟ้ามาถึงชานชาลาแบบพอดีเป๊ะไม่ต้องรอหรือว่าเขาตื่นเต้นมากไปจนเดินเร็วขึ้นก็ไม่รู้ แต่เขาใช้เวลาแค่ยี่สิบนาทีในการมาถึงที่นัดหมาย ทั้งที่การเดินทางมายังมยองดงของวอนอูจะกินเวลาเกือบครึ่งชั่วโมง



          ตื่นเต้นอะไรขนาดนี้ล่ะ...



          ซินกำลังไปนะครับ ไวท์รออยู่หน้าโรงหนังใช่มั้ย?



          ใช่ครับ ซินแต่งตัวยังไงหรอ



            เดี๋ยวซินถึงแล้วจะบอกนะ วอนอูถอนหายใจใส่มือถือเบา ๆ ทำไมต้องทำให้เป็นความลับด้วยกับแค่เรื่องแต่งตัวเนี่ย แต่คนตัวบางก็ไม่ได้ตอบกลับอะไร เมื่อรู้สึกว่าว่างมาก วอนอูเลยกดเข้าแอพกล้องแล้วถ่ายรูปบริเวณโรงหนัง แต่งสีเล็ก ๆ น้อย ๆ แล้วโพสต์ลงทวิตเตอร์



          ‘Waiting… @JR95_O6O8x’



            ยังไม่ทันจะเก็บมือถือเข้ากระเป๋ากางเกงก็มีเสียงแจ้งเตือนดังขึ้น



          ‘I’m going @cgREN_95’



            รูปที่แนบมาด้วยคงเป็นพื้นของรถไฟฟ้าใต้ดินสักสาย มีส่วนหนึ่งของรองเท้าผ้าใบสีน้ำเงินเข้มกับขาวอยู่ในรูปด้วย วอนอูพยายามจดจำมันให้ได้ แต่ก็นึกขึ้นได้ว่ายังไงก็ต้องถามไถ่กันอยู่ดีเลยกดปิดรูปไป แล้วจึงนั่งเลื่อนไทม์ไลน์ทวิตเตอร์ไปเรื่อยเปื่อย



            ‘@JR95_O6O8x @cgREN_95 ฮั่นแน่ นัดเดทกันแล้วหรอ เมนชั่นแบบนี้มีแค่คนเดียวเท่านั้นแหละ วอนอูส่ายหน้าใส่มือถือเบา ๆ เจ้าเด็กเยวอนไม่เคยพลาดอะไรแบบนี้สักครั้ง



          ‘@CYoungjae_96x @JR95_O6O8x ไม่ยุ่งซักเรื่องไม่ได้หรอ เจ้าเด็กนี่...



          ‘@CYoungjae_96x @cgREN_95 ใช่ครับ เดทแรกเลยนะ อวยพรพี่หน่อยเร็ว



            คำตอบที่ต่างกันของไวท์กับซินทำเอาวอนอูหัวเราะออกมา จะว่าไป ตั้งแต่เขาทวิตเรื่องนั้น สองคนนี้ก็ดูสนิทกันแปลก ๆ สงสัยซินคงไปถามเยวอนเรื่องของเขาสินะ



          ‘@JR95_O6O8x @cgREN_95 โชคดีครับพี่ ไม่รู้ใครจะเซอร์ไพรส์ใครกันแน่ 55555



          ยังไงฝั่งนั้นก็น่าจะเซอร์ไพรส์มากกว่าอยู่แล้ว ก็เขาเป็นผู้ชายนี่นา...








            พอไล่รีทวิตทั้งตารางงานวันนี้ ข่าวสาร รวมถึงรูปจากบ้านแฟนไซต์ต่าง ๆ ทั้งหมดแล้ว วอนอูที่นั่งแกร่วอยู่เลยลุกขึ้นไปดูตารางภาพยนตร์ที่เครื่องขายตั๋วอัตโนมัติ ในอาทิตย์นี้ ภาพยนตร์ที่เขาอยากดูก็ดูไปทั้งหมดแล้ว เหลือแต่เรื่องที่เขาไม่ค่อยอยากดูเท่าไหร่ ไม่งั้นก็เป็นแนวเรื่องที่เขาไม่สนใจ วอนอูยืนมองอยู่นานจนรู้สึกว่ามีคนมายืนข้างหลังเลยจะถอยออกให้



            “ขอบคุณครับ” เสียงนั้นทำให้ขาของวอนอูหยุดชะงัก



          เสียงเหมือนเสียงของซินในหัวของเขาตอนนั้น...



            วอนอูรีบหันหน้าไปมอง เจ้าของเสียงเป็นผู้ชายตัวสูงชะลูดคนหนึ่ง สูงกว่าเขาเสียอีก หน้าตาดีจนวอนอูคิดว่าเขาอาจจะเป็นคนในวงการคนหนึ่ง วอนอูสะดุ้งเล็กน้อยเมื่ออีกคนเลิกคิ้วใส่ คนตัวบางถอยออกมาพลางก้มหัวเล็กน้อยเป็นเชิงขอโทษ ก่อนจะเดินไปที่เคาน์เตอร์ขายอาหารและเครื่องดื่มต่าง ๆ



            “ที่นี่ไม่มีนาโช่หรอเนี่ย...” เสียงแหบพึมพำในลำคอ ที่จริงเขาก็ไม่ได้ชอบนาโช่มากมายนัก แค่อดแปลกใจไม่ได้ที่โรงหนังกลางย่านวัยรุ่นแบบนี้ไม่มีเมนูที่ฮิตกันแบบโรงหนังอื่น เสียงแจ้งเตือนของมือถือทำให้เขาต้องก้มลงหยิบมันออกมาดู



            ซินถึงแล้วนะครับ ไวท์อยู่ตรงไหน? วอนอูเงยหน้าพลางหันซ้ายทีขวาที แต่จำนวนคนที่จดจ่ออยู่กับมือถือนั้นมีมากกว่าที่คิด ซึ่งเขาก็จนปัญญาจะคาดเดาว่าหนึ่งในนั้นคือซิน



            ไวท์อยู่หน้าเคาน์เตอร์ขนมครับ ซินอยู่ตรงไหน? วอนอูกดส่งข้อความพลางหมุนตัวเพื่อจะมองหาอีกคนได้ถนัด แต่ก็พบกับคนคนหนึ่งที่มาหยุดยืนอยู่ด้านหน้าของเขา






            “ไวท์ใช่มั้ยครับ?”






            คำถามนั้นไม่น่าตกใจเท่ากับเสียงที่เอ่ยออกมา วอนอูชะงักค้างก่อนจะค่อย ๆ เงยหน้าขึ้น



            “อ...เอ่อ... คุณ...” ร่างบางพยายามเรียบเรียงคำพูดในสมองแต่เหมือนร่างกายจะไม่ค่อยเป็นใจเท่าไหร่นัก พูดตะกุกตะกักอยู่ 2-3 คำก็ยอมแพ้และเก็บมือถือเข้ากระเป๋ากางเกงไป



            “ซินเองครับ” เจ้าของใบหน้าหล่อยกยิ้ม เผยให้เห็นฟันเขี้ยวที่ดูมีเสน่ห์



            “ไวท์น่ารักจริง ๆ ด้วย...” เสียงทุ้มที่พึมพำออกมาทำเอาใบหน้าติดหวานขึ้นสีระเรื่อ วอนอูหลุบตาลงเม้มปากแน่น มือเจ้ากรรมไม่รู้จะไว้ที่ไหนเลยได้แต่กำมันเข้าไว้ด้วยกันจนแน่น



            “ไวท์ครับ” เสียงทุ้มเอ่ยเรียก วอนอูเลี่ยงไม่ได้จึงเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง สบตาเพียงเสี้ยววิก็เบนหนีไปทางอื่นอีก



          ให้ตายสิ ทำไมเขาถึงเขินผู้ชายด้วยกันได้ขนาดนี้...






            ทั้งคู่ยืนกันอยู่เงียบ ๆ อย่างนั้นครู่ใหญ่ วอนอูพยายามไม่มองตาอีกคน เขารู้ตัวว่าใบหน้าของเขาเป็นสีแดงและไม่หายง่าย ๆ แน่ เช่นเดียวกับหัวใจของเขาที่ตอนนี้เต้นรัวไม่หยุด เลือดสูบฉีดไปทั่วร่างอย่างรวดเร็วจนเขารู้สึกร้อนขึ้นมาเลยยกมือขึ้นมาพัดตัวเอง วอนอูรู้ว่าอีกคนยังคงจ้องมองเขาไม่วางตา ร่างบางพยายามหลบสายตาอย่างเต็มที่ ไม่รู้ตัวเลยว่าอีกคนกำลังกลั้นยิ้มอย่างยากลำบาก



            “จะไม่มองกันจริง ๆ หรอครับคุณ” คนตัวสูงเอ่ยขึ้นมาอีกครั้ง วอนอูส่ายหน้าเบา ๆ จนอีกคนหัวเราะออกมา มือใหญ่ยื่นกล่องของขวัญมาให้ ตาเรียวมองมันสักครู่ก่อนจะรับมาถือไว้เฉย ๆ ได้ยินอีกคนถอนหายใจออกมาเบา ๆ แล้วดึงกล่องของขวัญนั้นกลับไปเปิดเอง วอนอูมองมือใหญ่ที่หยิบเชือกถักสีม่วงขาวออกมา



            “อันนี้ผมทำเองแหละ ที่ถามไวท์ไปว่าชอบสีอะไรไงครับ” พูดพลางดึงข้อมืออีกคนขึ้นมาแล้วผูกเชือกถักให้ ร่างบางยืนนิ่งและมองมือใหญ่ที่กำลังวุ่นวายกับข้อมือตัวเองไม่วางตา เมื่อเสร็จแล้ว คนตัวสูงก็หยิบแหวนออกมาต่อ จับมือเล็กข้างขวาขึ้นมาแล้วสวมแหวนสีเงินให้ที่นิ้วนาง



            “อ๊ะ ด...เดี๋ยวสิ...” วอนอูขืนมือตัวเองออก เงยมองหน้าอีกคนที่เลิกคิ้วเป็นเชิงถาม



            “คือ...มันจะไม่เร็วไปหน่อยหรอ?” เสียงแหบพึมพำก่อนจะหลุบตาอีกครั้ง



            “ก็ว่าอยู่แหละครับ งั้น...ถ้าใส่เป็นสร้อยล่ะ?” ร่างสูงก้มลงมองในกล่องของขวัญแล้วหยิบสายสร้อยที่เป็นโซ่เล็ก ๆ ออกมา ถอดแหวนออกจากนิ้วเรียวมาใส่สายโซ่นั่นแทน วอนอูถึงกับยืนเกร็งเมื่ออีกคนเอื้อมมือมาใส่สร้อยให้ ใบหน้าที่ใกล้ชิดกันมากขึ้นยิ่งทำให้แก้มร้อนผ่าว



            “ไวท์ตัวหอมนะ...” เสียงทุ้มพึมพำข้างหูก่อนจะผละออกมามองยิ้ม ๆ



            “หยุดพูดได้แล้วน่า...” วอนอูบ่นอุบอิบ ถึงเสียงจะเบาแต่อีกคนก็ได้ยินเพราะงั้นเลยอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา



            “ขี้เขินจัง”





          หยุดพูดซะที!













            “แล้ว...นี่ชื่ออะไรน่ะ” วอนอูเอ่ยถามหลังจากที่มาหาร้านนั่งกินมื้อกลางวันกัน สรุปก็ไม่ได้ดูหนังเพราะเขาไม่มีเรื่องที่อยากดู บวกกับอีกคนที่ตื่นสายเลยรีบออกมาจนไม่ได้กินข้าว



            “มินกยูครับ คิมมินกยู” ที่จริงก็ไม่ค่อยอยากพูดคุยเท่าไหร่ เพราะเสียงทุ้มนั่นทำเอานึกถึงตอนนั้นตลอด แต่จะนั่งเป็นใบ้กันก็ใช่ที่ เลยได้แต่ตั้งสติแล้วพยายามทำตัวปกติที่สุดเท่าที่ทำได้



            “ผมวอนอูนะ จอนวอนอู”



            “รู้แล้วแหละครับ” มินกยูพูดพลางยิ้มแยกเขี้ยว วอนอูขมวดคิ้วมองนิ่ง



            “ก็...ผมไปถามบอทยองแจฮยองคนนั้นมา ที่จริงกะจะเรียกชื่อจริงตั้งแต่เจอกันด้วยแต่กลัวจะตกใจมากกว่าเดิม แค่เรียลผมเป็นผู้ชายพี่ก็น่าจะตกใจอยู่แล้ว แต่พี่น่ารักกว่าที่คิดอีกนะ เหมือนตกหลุมรักอีกครั้งเลยอะครับ จริง ๆ นะ” คนตัวสูงพูดเจื้อยแจ้วระหว่างเคี้ยวเฟรนช์ฟรายส์



            “เดี๋ยวนะ... นี่แสดงว่ารู้เรียลอยู่แล้วสิ...” วอนอูก็อยากจะเขินกับประโยคหลังอยู่หรอกนะ แต่ประโยคแรกที่ได้ยินมันทำให้เขารีบหยิบมือถือขึ้นมาเข้าแอพทวิตเตอร์ นิ้วเรียวพิมพ์ข้อความอย่างรวดเร็วแล้วส่งเข้าไปใน DM ของบอทยองแจผู้เป็นน้องคนสนิท โดยไม่สนใจเสียงงุ้งงิ้งงอแงเพราะอีกคนไม่สนใจคำหวานของตัวเองของคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม



          เจ้าเด็กแสบ บอกเรียลพี่ให้ซินรู้หรอ!! รอไม่ถึงนาที เจ้าของแอคยองแจก็ตอบกลับมา








          เซอร์พร้ายยยยยยยยย 555555555555555555555’